ทันหุ้น – สู้โควิด – BEM รับอานิสงส์เปิดเรียนตามปกติ ดันปริมาณผู้โดยสาร รถไฟฟ้า-ทางด่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่สถิติผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT แตะระดับปกติ 3 แสนคนต่อวัน โบรกคาดหนุนกำไรไตรมาส 3/2563 โตเด่น และโตต่อเนื่องข้ามปี แนะมองข้ามไตรมาส 2/2563 ที่เป็นจุดต่ำสุด เคาะ “ซื้อ” เป้า 11.10 บาท

รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า สรุปปริมาณผู้โดยสารด้านระบบรางเดือนกรกฎาคม 2563 พบว่า ภาพรวมผู้ใช้บริการระบบรางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2563 พบว่า ภาพรวมมีผู้ใช้บริการระบบรางจำนวน 1,111,176 คน เพิ่มขึ้น 90,115 คน หรือเพิ่มขึ้น 8.83 % เมื่อเทียบกับวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 โดยเฉพาะการให้บริการระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีผู้ใช้บริการรวม 1,052,760 คน เพิ่มขึ้น 8.94%

แบ่งเป็นรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตตเรลลิงก์ มีผู้ใช้บริการ 48,746 คน เพิ่มขึ้น 14.74%, รถไฟฟ้า BTS มีผู้ใช้บริการ จำนวน 644,000 คน เพิ่มขึ้น 8.21%, รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการ จำนวน 312,723 คน เพิ่มขึ้น 9.95%, และ รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม(สีม่วง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 47,291 คน เพิ่มขึ้น 13.80%

*เสนอเปิดเรียนปกติ

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ที่ประชุมมีมติให้กลับมาเรียนเต็มรูปแบบตามปกติ แต่จะมีมาตรการเพิ่มเติมคือ ครู และนักเรียน จะต้องมีการจดบันทึกว่าไปที่ไหนมาบ้าง ทุกวันหลังเลิกเรียน เพื่อให้ทราบการเดินทาง ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นมาตรการที่เตรียมการไว้ในช่วงที่ยังไม่มีการเปิดประเทศอย่างเต็มที่

โดยข้อเสนอนี้ไม่ต้องเสนอศบค.ชุดใหญ่ เพราะเป็นการทดลองเปิดเรียน 100% แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี หากเห็นชอบก็จะเริ่มใช้ในวันพฤหัสบดี 13 สิงหาคม

*รายได้ครึ่งปีหลังโตเด่น

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การที่นักเรียน นักศึกษาจะกลับเข้าสู่ระบบการเรียนตามปกติ ไม่ต้องเรียนสลับวันกัน จะหนุนรายได้ทั้งธุรกิจรถไฟฟ้า และธุรกิจทางด่วนของ BEM ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2563 โดยคาดมีกำไรสุทธิที่ 1,147 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจาก 1.รายได้ที่ฟื้นตัวในระดับปกติก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 และ 2.ได้ประโยชน์ค่าสัมทานทางด่วนที่ลดลง

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2563 ของ BEM จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2563 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 36 ล้านบาท ลดลง 98% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 88% จากไตรมาสก่อน โดยคาดการณ์รายได้รวมที่ 2,483 ล้านบาท ลดลง 36% จากปีก่อน, และ 32% จากไตรมาสก่อน พร้อมกันนี้คาดการณ์กำไรสุทธิงวดครึ่งแรกของปี 2563 ที่ 670 ล้านบาท ลดลง 86%  จากปีก่อน

*จังหวะซื้อ-เป้า 11.10 บ.

ด้านราคาหุ้น BEM ที่อ่อนตัวลงเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ หนุนจากผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มฟื้นตัวแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ตามการฟื้นตัวของปริมาณการใช้ทางด่วน และผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า โดยคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2563 ที่ 2,919 ล้านบาท และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 ที่ 6,145 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 11.10 บาท นอกจากนี้ BEM มีปัจจัยหนุนคือการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก, และสายสีม่วงใต้ รวมถึงสัญญาสัมปทานสายสีม่วง จากเดิมเป็นผู้รับจ้างบริหารจัดการระบบงานเดินรถ