> SET > SVI

06 สิงหาคม 2020 เวลา 11:46 น.

SVI มั่นใจปีนี้ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง, ขยายกำลังการผลิตรับดีมานด์เพิ่ม

ทันหุ้น –สู้โควิด –SVI รับอานิสงส์เศรษฐกิจโลกที่จะฟื้นตัวหลัง COVID-19 -สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน ช่วยดันยอดขายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์เพิ่ม ชูจุดแข็งด้านฐานการผลิตและเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายกำลังการผลิตโรงงานรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก ขณะที่ผลงานครึ่งปีแรกคาดเติบโตเด่นและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลังของปีนี้


นายสมชาย สิริปัญญานนท์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวได้ดี โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19เพียงเล็กน้อยและมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังนโยบายของรัฐบาลและธนาคารกลางในหลายประเทศดำเนินมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์จากผลพวงสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้มีลูกค้ารายใหม่จาก 2 ประเทศดังกล่าว โยกคำสั่งซื้อใหม่ๆ เข้ามาให้โรงงานในประเทศไทยเป็นผู้ผลิต ทำให้ยอดขายของบริษัทฯ พุ่งขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าได้อย่างเต็มกำลังการผลิตจากโรงงานในประเทศไทย รวมถึงใช้จุดแข็งด้านฐานการผลิตในภูมิภาคต่างๆ อีก 4 แห่ง ได้แก่ ในประเทศออสเตรเตรีย ฮังการี สาธารณรัฐสโลวัก และกัมพูชา เพื่อตอบสนองความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ให้แก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี


บริษัทฯ มีแผนลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพและความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ประเทศในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น โดยมุ่งเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์เชิงระบบ (High-End System-Build) ที่มีความซับซ้อนในกระบวนการผลิตสูง รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิต รองรับความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ในภาคอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น


“แม้ทั่วโลกจะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ธุรกิจของเรามีอัตราการเติบโตที่ดี จากความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ในภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเรามีจุดแข็งด้านความชำนาญในการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิคส์ที่มีความหลากหลายด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง และความได้เปรียบเชิงการแข่งขันจากฐานการผลิตที่กระจายในหลายประเทศ และการบริหารซัพพลายเชนด้านการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เรามีขีดความสามารถทางการแข่งขันเหนือคู่แข่ง เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้เพิ่มเติม” นายสมชาย กล่าว


ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งแรก (มกราคม-มิถุนายน 2563) คาดว่าจะเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 3.39 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 227 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีตลาดหลัก ได้แก่ ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย รองลงมาได้แก่ ตลาดยุโรปและสหรัฐฯ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้เติบโตได้ดี ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมและระบบเครือข่ายไร้สายสำหรับการสื่อสาร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Industrial Security Camera และระบบที่ใช้สื่อสารผ่านดาวเทียม เพื่อใช้ในเรือเดินสมุทร หรือใช้ในการส่งภาพและเสียงผ่านดาวเทียม รวมถึงผลิตอุปกรณ์ระบบสื่อสารที่ใช้รับข้อมูลผ่านเคเบิลใยแก้วนำแสง ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ โดยมีตลาดสำคัญอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X