ทันหุ้น-สู้โควิด- บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือSCBS ระบุว่าการประเมินความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์บ่งชี้ว่าธนาคารต่างๆ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองและเงินกองทุนมากเกินพอซึมซับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่มีสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอันเนื่องมาจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 และยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ แต่น่าจะจ่ายลดลง

ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี (ปี 2563-2564) ที่ธนาคารต่างๆ จะต้องแบกรับภาระตั้งสำรองเพิ่มอย่างเต็มที่สืบเนื่องมาจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 เราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะลดลง 35% ในปี 2563, ทรงตัวในปี 2564, ฟื้นตัวครึ่งทางในปี 2565 และกลับคืนสู่ระดับก่อนวิกฤตโควิด-19 ในปี 2566 หลักๆ เกิดจากค่าใช้จ่ายตั้งสำรอง แม้หุ้นกลุ่มธนาคารซื้อขายที่ valuation ถูก ที่ PBV 0.5-0.6 เท่า แต่เราแนะนำให้รอจนกว่าความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จะชัดเจนมากขึ้นใน 1Q64 เรายังคงเลือก BBL เป็น top pick ของกลุ่มธนาคาร เนื่องจากได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากสถานการณ์โควิด-19

ประเมินความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ - สร้างภาระหนัก แต่สามารถซึมซับได้ เราประเมินระดับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากสินเชื่อภายใต้มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งนี้เมื่ออิงกับข้อมูลจากธนาคารต่างๆ เราพบว่า SCB KBANK TMB และ KKP มีสินเชื่อภายใต้มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สัดส่วนสูงที่สุดที่ 39-40%และ TISCO มีสินเชื่อภายใต้มาตรการดังกล่าวสัดส่วนต่ำที่สุดที่ 20%ธนาคารต่างๆ คาดว่าสินเชื่อภายใต้มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ส่วนใหญ่จะสามารถชำระหนี้ได้ และมีเพียงส่วนน้อยที่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้ในลักษณะเชิงป้องกันเพิ่มเติม ทั้งนี้กรณีพื้นฐานของเรา เราใช้สมมติฐานว่าสินเชื่อภายใต้มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ 10%ถูกเลื่อนชั้นลงสู่ stage 3 และ 15% ถูกเลื่อนชั้นลงสู่ stage 2 เราคาดการณ์อัตราส่วน NPL ใหม่ที่ประมาณ 2-4% ซึ่งหมายความว่าอัตราส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นสู่ประมาณ 5-8% ภายในสิ้นปี 2564

คาดว่าธนาคารต่างๆ จะใช้เวลา 2 ปี (ปี 2563-2564) ในการซึมซับภาระตั้งสำรองเพิ่มอย่างเต็มที่สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19และจะมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองและเงินกองทุนมากเกินพอดูซึมซับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่มีสาเหตุมาจากสถานการณ์โควิด-19 และสามารถจ่ายเงินปันผลได้ แต่จะจ่ายลดลง เราคาดว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2563 จะใกล้เคียงกับปี 2562ซึ่งจะเปิดทางให้ธนาคารจ่ายเงินปันผลลดลงตามกำไรที่ลดลง เนื่องจากจำเป็นต้องรักษาความสมดุลระหว่างการรักษาเงินทุนและการจ่ายเงินปันผลเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น

กำไรฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป (U-shape)

การเปลี่ยนแปลงของผลประกอบการธนาคาร หลักๆ ขึ้นอยู่กับนโยบายการตั้งสำรอง คาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะลดลงเฉลี่ย 35% ในปี 2563 หลักๆ เป็นผลมาจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอย่างมากเพื่อซึมซับความเสี่ยงที่คุณภาพสินทรัพย์จะปรับตัวแย่ลงสืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 กำไรงวด 1H63 ของกลุ่มธนาคารคิดเป็นสัดส่วน 58% ของประมาณการกำไรปี 2563 ของเรา เราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะปรับตัวลดลงอีกใน 2H63 หลักๆ เกิดจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะอยู่ในระดับทรงตัวในปี 2564เนื่องจากเราคาดการณ์ถึงการตั้งสำรองสูงอย่างต่อเนื่อง โดย credit cost จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2563 เพื่อซึมซับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มที่ สำหรับปี 2565เราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเติบโตปานกลางที่ 16%เราคาดว่าธนาคารจะลดการตั้งสำรองลงในปี 2565 แต่จะยังไม่กลับคืนสู่ระดับปกติ เนื่องจากธนาคารจะต้องการเพิ่ม LLR coverage กำไรปี 2565 จะถูกฉุดรั้งโดย NIM ที่ลดลงอย่างมาก เนื่องจากอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ จะปรับขึ้น 23 bps กลับสู่ระดับปกติที่ 0.46% คาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวกลับคืนสู่ระดับก่อนวิกฤตโควิด-19 (ปี 2562) ในปี 2566หลักๆ ได้รับปัจจัยกระตุ้นจากการตั้งสำรองลดลงอีกเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว

Valuation ถูก แต่ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อ แม้หุ้นกลุ่มธนาคารซื้อขายที่ valuation ถูก ที่ PBV ประมาณ 0.5-0.6 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับ ROE ที่คาดว่าจะทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ 5-6% ในปี 2563 แต่ยังไม่ได้สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวแต่อย่างใด เราเชื่อว่ายังเร็วเกินไปที่จะเล่นประเด็นเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไร เนื่องจากเราคาดว่ากำไรจะยังไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปี 2565 อีกทั้งยังมีปัจจัยกดดันขนาดใหญ่จากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ไม่สามารถหยั่งรู้ได้ และไม่มีปัจจัยอื่นๆ มาช่วยกระตุ้นราคาหุ้น เราแนะนำให้รอจนกว่าความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จะมีความชัดเจนมากขึ้นใน 1Q64 เรายังคงเลือก BBL เป็น top pick ของกลุ่มธนาคาร ราคาเป้าหมาย133 บาท   เนื่องจากมีสัดส่วนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต่ำที่สุด และมีงบดุลแข็งแรงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ LLR coverage

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1