> SET > STGT

05 สิงหาคม 2020 เวลา 14:06 น.

STGTปรับเป้าใหม่100บ. โบรกเคาะงบQ2โต404%

ทันหุ้น-สู้โควิด: STGT  โบรกปรับเป้าใหม่ไป 100 บาท หลังคาดกำไรไตรมาส 2 โต 404% และมีโอกาสดีกว่าคาดหากราคาถุงมือยางปรับขึ้น เรื่องดียังไม่จบเพราะจะหนุนให้งบครึ่งปีหลังเด่นยิ่งขึ้นจากความต้องการถุงมือยาง ซึ่งเป็นผลพวงจากโควิด-19 ยังคงระบาดต่อเนื่องทะลุ 18 ล้านคน กำไรสุทธิ ปีนี้ คาดโต 565%ที่ 4,200 ล้านบาท พร้อมโตต่อในปีหน้า


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่ากำไรไตรมาส 2/2563 ของ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT จะเติบโตสูง และคาดว่าจะยิ่งเติบโตดีมากขึ้นในครึ่งปีหลัง โดยได้ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2 ไว้ที่ 903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 404% YoY และเพิ่มขึ้น 114% QoQ จากปริมาณการขายถุงมือยางได้ 7,700 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 24% QoQ ซึ่งไตรมาสแรกขายได้ 6,200 ล้านชิ้น และราคาขายเฉลี่ยที่ 0.69 บาทต่อชิ้น เพิ่มขึ้น +15% QoQ จากราคาขายเฉลี่ยไตรมาสแรกที่ 0.60 บาทต่อชิ้น


ในขณะที่ gross profit margin จะปรับตัวดีขึ้นเป็น 21.0% เทียบกับไตรมาสแรกที่ 18.8% และไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ 13.9% อย่างไรก็ตามหากราคาขายเฉลี่ยสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ มีโอกาสที่กำไรสุทธิไตรมาส 2 จะออกมาสูงกว่าที่คาด โดยยัง คงกำไรสุทธิปี 2563 ว่าเป็นไปตามคาดการณ์ว่าจะโต 565% YoY อยู่ที่ 4,200 ล้านบาท และคาดด้วยว่ากำไรในครึ่งปีหลัง จะเติบโตมากจาก ราคาขายถุงมือยางในไตรมาส 3/2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40% อยู่ที่ 0.95 บาทต่อชิ้น และจะทรงตัวไปถึงสิ้นปี


การปรับสัดส่วนการผลิตถุงมือยางไนไตรล์ให้มากขึ้นเป็น 40%-45% ของกำลังการผลิต จาก ไตรมาสแรกที่ 30% เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นรวมถึงต้นทุนของยางสังเคราะห์อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ ปีนี้ STGT จะมี utilization rate อยู่ที่ระดับ 95% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 0.80 บาท/ชิ้น (+33% YoY) และ gross profit margin อยู่ที่ 25% และยังคงสมมติฐานค่าเงินบาทอยู่ที่ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ


สำหรับประมาณการณ์ปี 2564 บล.เคทีบี ยังคงกำไรสุทธิที่ 4,550 ล้านบาท โต 8% YoY โดยคาดว่าราคาขายเฉลี่ยปี 2564 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 0.85 บาทต่อชิ้น ปรับเพิ่มขึ้นราว +6% YoY และประเมินว่าบริษัทจะยังสามารถรักษาระดับ gross profit margin ได้เทียบเท่าปี ประมาณการณ์ของปี2562 ที่ระดับ 25% และยังคงอยู่บนสมมติฐานค่าเงินบาทอยู่ที่ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ


บล.เคทีบี ยังคงแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 100.00 บาท จากราคาเป้าหมายเดิมที่ 85.00 บาท โดยเรา re-rate targeted PER ขึ้นเป็น 34x เทียบเท่า +2SD above 5-yr average PER ของ peer ในขณะที่ หุ้นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ในประเทศมาเลเซียปัจจุบันเทรดที่มากกว่า +5SD above 5-yr average PER  จากเดิมที่อิง 2020E PER ที่ 29x (เทียบเท่า +1SD 5-yr average PER ของ peer)


ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นและ outperform SET +28% ในช่วง 1 เดือน จากการระบาดของวิด-19 ยังมีผู้ติดเชื้อต่อเนื่องทะลุ 18 ล้านคน ทำให้ความต้องการถุงมือยางสูงกว่าที่คาดไว้ จึงทำให้มีโอกาสที่ บล.เคทีบี จะปรับประมาณการขึ้น ซึ่งปัจจุบันเทรด 2020E PER 28.7x(+1SD above 5-yr average PER ของ peer) และยังต่ำกว่า peer ที่เทรดที่ 50x (ประมาณ +5SD above 5-yr average PER)


อย่างไรก็ตามราคาหุ้นจะยังคง outperform จาก outlook ที่ยังดีต่อ และปัจจุบัน STGT เทรดที่ 2020E PER ที่ 28.7x (+1SD above 5-yr average PER ของ peer) และยังต่ำกว่า peer ที่เทรดที่ 50x (สูงกว่า +2SD above 5-yr average PER) เรามีโอกาสปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E/21E และราคาเป้าหมายหลังประกาศงบ 2Q20

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X