> SET > PTG

05 สิงหาคม 2020 เวลา 08:45 น.

PTGครึ่งหลังฟื้นตัวแรง ค่าการตลาด-ยอดขายพุ่ง

ทันหุ้น –สู้โควิด –PTG ครึ่งปีหลังส่งสัญญาณฟื้นตัวแรง จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ พร้อมเดินหน้าบริหารสต๊อก มองค่าการตลาดเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 1.85 บาทต่อลิตร แย้มไตรมาส 3/2563 ปริมาณขายมีแนวโน้มพลิกบวก ฟากโบรกประเมินกำไรไตรมาสที่ 440 ล้านบาท โต 43% จากไตรมาสก่อน ค่าการตลาดหนุน, มอง Growth Company ในระยะยาว เชียร์ซื้ออนาคต 22 บาท


นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตดีขึ้น จากปริมาณการขายที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในประเทศ และสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายมากขึ้น

ซึ่งบริษัทได้ทบทวนเป้าหมายการเติบโตใหม่อยู่ที่ 8-13% จากเดิมคาดว่าปริมาณการขายน้ำมันปีนี้จะเติบโต 15-20% ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่าค่าการตลาดเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ 1.85 บาทต่อลิตร ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำหนด


*เดินหน้าขยายปั๊มต่อเนื่อง


สำหรับในไตรมาส 3/2563 เป็นช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจ เนื่องจากเป็นฤดูฝนทำให้ ปริมาณการใช้รถใช้ถนน ลดน้อยลงโดยปกติแล้ว ยอดขายจะลดลงจากช่วงปกติประมาณ 10%แต่ปีนี้บริษัทมองว่าจะได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว บริษัทจึงมองว่าปีนี้ในช่วงไตรมาส 3/2563 ปริมาณการขายอาจจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้


บริษัทได้ปรับเพิ่มงบลงทุนปีนี้เป็น 3,000-3,500 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดลงมาเหลือ 2,000-2,500ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท สาเหตุที่บริษัทปรับเพิ่มขึ้นเพื่อใช้การขยายสถานีบริการน้ำมันราว 100 สาขา, การปรับปรุงรีโนเวทสถานีบริการน้ำมันเดิม, ขยายสถานีบริการน้ำมันแอลพี่จี (LPG) เเละขยายธุรกิจ Non-Oil อย่างต่อเนื่อง คาดว่า ณ สิ้นปี 2563 บริษัทจะมีสถานีบริการน้ำมันทั้งมด 2,130 -2,150แห่ง


*ผลงานไตรมาส 2 ยังดี


บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด ระบุถึง PTG ว่า มีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อผลประกอบการไตรมาส 2/2563 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 43% จากไตรมาสก่อน แม้จะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ปริมาณขายกลุ่มน้ำมันของ PTG ลดลงเพียง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ค่าการตลาดคาดสูงราว 1.90 บาทต่อลิตร ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลงและไม่ผันผวน รวมถึงการคุม SG&A expenses ได้ดี


สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2563 แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซันของการบริโภคน้ำมัน แต่ปีนี้คาด Volume ผ่านจุต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2/2563 โดยคาด Volume Growth ในครึ่งปีหลังจะเติบโต 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ค่าการตลาดสูงราว 1.85 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1.78 บาท เพราะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันระดับต่ำ


*ชูเป้ามหาย 22 บาท


โดยคาดกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 857 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 33% จากครึ่งปีแรก และได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ขึ้น 42% และ 22% มาที่ 1.5 พันล้านบาท และ 1.6 พันล้านบาท ตามลำดับ


กลยุทธ์การลงทุนได้ปรับราคาเป้าหมายมาเป็นปี 2564 อยู่ที่ 22 บาทต่อหุ้น และแนะนำ “ซื้อ” มองว่ากำไรผ่านช่วงต่ำสุดในไตรมาสแรกปีนี้แล้ว ในขณะที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่จำกัดกว่ากลุ่ม โดย volume ยังเติบโต และค่าการตลาดมีแนวโน้มสูง ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากปาล์มคอมเพล็กซ์ ดีขึ้นมาก เป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุน จึงมองว่าหุ้น PTG ยังเป็น Growth Company ในระยะยาว

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X