> SET >

04 สิงหาคม 2020 เวลา 15:37 น.

เทียบฟอร์ม 2 บิ๊กรับเหมา CK-STEC ในมุมมอง "โนมูระ พัฒนสิน"

ทันหุ้น-สู้โควิด :"โนมูระ พัฒนสิน" ออกบทวิเคราะห์หุ้นรับเหมาก่อสร้างใหญ่ 2 บริษัท ประกอบด้วยบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือ CK และหุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ซึ่งมีมุมมองที่เป็นบวกเล็กน้อยต่อผลประกอบการไตรมาส 2/63 รวมถึงแนะนำซื้อในหุ้นทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว 


ฝ่ายวิจัย โนมูระ พัฒนสิน คาดว่า CK ในไตรมาส 2/63 จะมีกำไรปกติ 31 ล้านบาท ลดลง 80% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ที่ขาดทุน โดยกำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรายได้ก่อสร้างที่ลดลงตามงานในมือที่ลดลง ประกอบกับมีส่วนแบ่งขาดทุน เนื่องจาก BEM ที่กำไรลดลงมากจากผลกระทบโควิด-19 และ CKP ยังขาดทุนจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ที่น้ำยังเข้าไม่มาก แต่หากเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ที่ผลประกอบการดีขึ้น มาจากเงินปันผล TTW ที่เข้ามาราว 232 ล้านบาท เป็นปัจจัยชดเชยจากรายได้ก่อสร้างที่ลดลง 


คาดกำไรปกติไตรมาส 3/63 จะฟื้นตัว อยู่ที่ราว 475 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 131% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นไตรมาส 2/63 หลักๆ มาจากบริษัทลูก ที่กลบการลดลงของรายได้ก่อสร้างตามงานในมือที่เหลือน้อยได้ โดยส่วนแบ่งกำไรที่โตจาก BEM ที่ฟื้นตัวก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 จากปริมาณผู้ใช้ทาง และรถไฟฟ้ากลับสู่ปกติ

และได้ประโยชน์ค่าสัมปทานทางด่วนลดลง รวมถึง CKP มีกำไรเพิ่มจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี 


กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 อยู่ที่ 24 บาทต่อหุ้น โดยมองกำไรที่อยู่ในระดับต่ำสุดในไตรมาส 2/63 และกำไรทั้งปี 2563 ลดลงเป็นทิศทางที่ไม่ได้เหนือกว่าคาด จากระดับ backlog ที่อยู่ในระดับต่ำ คาดไตรมาส 2/63 อยู่ที่ราว 31,000 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 2/62 ซึ่งอยู่ที่ 38,219 ล้านบาท สะท้อนทิศทางรายได้ก่อสร้างลดลง และตลาดน่าจะรับรู้ไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี ยังคงมุมมองว่า CK มีความน่าสนใจจากกำไรฟื้นตัวในช่วงปี 2563-2565 เฉลี่ย 50% CAGR เด่นที่สุดในกลุ่มรับเหมางานรัฐ รวมถึงไม่มีประเด็นกังวลในด้าน GPM โครงการระหว่างก่อสร้าง และมี recurring income ที่เติบโตจากบริษัทลุกหนุน 


นอกจากนี้มองว่าในครึ่งปีหลังบริษัทจะมีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนจากโครงการประมูลรัฐที่บริษัทมีโอกาสชนะสูง การได้งานก่อสร้างเพิ่มจากโครงการถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

ส่วนหุ้น STEC ฝ่ายวิจัย คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/63 อยู่ที่ราว 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 49% จากไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตจากรายได้ก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น หลังงานใหม่เร่งตัว รวมถึงได้เงินปันผลจาก GULF และ TSE รวมราว 85 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ไม่มี 


นอกจากนี้คาดกำไรปกติในไตรมาส 3/63จะอยู่ที่ราว 323 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 2/63 การฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 จากงานโรงไฟฟ้าที่มี GPM สูงเร่งตัวขึ้นมาชดเชยแรงฉุดของงานประเภทรางที่ GPM ต่ำ 


ฝ่ายวิจัยได้ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมแนะนำซื้อเก็งกำไร โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 อยู่ที่ 18.20 บาทต่อหุ้น มองว่าราคาหุ้นที่อ่อนตัวลง 7.5% ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิ.ย.2563 เป็นโอกาสสะสมเพื่อรับ story การฟื้นตัวของกำไรในปี 2564-2565 ราว 5% และ 43% ตามลำดับ ซึ่งมี backlog secure (รวมงานสนามบินอู่ตะเภา) แล้ว 91% และ 71% ตามลำดับ โดยคาด backlog ในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ราว 67,000 ล้านบาท รวมอู่ตะเภาเป็นราว 92,000 ล้านบาท 


ทั้งนี้มองว่าครึ่งหลังปีนี้เป็นช่วงที่เหมาะแก่การสะสม โดยมีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนจากการฟื้นตัวของ GPM โครงการประมูลรัฐที่บริษัทมีโอกาสชนะสูง และการได้งานก่อสร้างเพิ่มจากโครงการสนามบินอู่ตะเภา      


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X