ทันหุ้น-สู้โควิด : บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ผลดำเนินงานไตรมาส 2/63 มีกำไร 440.49 ล้านบาท เพิทมขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 8.09 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5,345% ขณะที่ครึ่งแรกปีนี้มีกำไร 701.42 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 132.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ และธุรกิจสายไฟฟ้าในเวียดนาม-บริษัทย่อยในไทย ผู้บริหาร คาดผลประกอบการที่เติบโต จะช่วยทำให้ค่าพี/อี ลดลงเหลือ 75 เท่า จากเดิมที่ 96 เท่า
นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2 / 2563 บริษัท ฯ มีรายได้ 4,657 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน 1,624 ล้านบาท หากเทียบธุรกิจเดิมเติบโต 5,262% และ กำไรสุทธิ 440.49 ล้านบาท เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเปรียบเทียบไตรมาส 1/2563 รายได้เติบโต 54.7 % กำไรเติบโต 68.8 %
สำหรับผลประกอบการที่ดีขึ้น ทั้งรายได้และกำไร ในไตรมาส 1 ต่อเนื่องไตรมาส 2 ของปีนี้ มีสาเหตุจากกรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยในประเทศไทย และการ consolidate บริษัท สายไฟ thipha และ dovina เข้ามาในไตรมาส 2 ปี 2563
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ อัตราส่วน ราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือพี/อี (P/E ratio ) ของบริษัทลดลงจาก 96 เท่า ( ณ 3 ก.ค.63 ) เหลือ 75 เท่า หากพิจารณาจาก งบการเงิน 4 ไตรมาส ย้อนหลัง อย่างไรก็ดี หากพิจารณาสมมติฐานที่ว่า กำไรสุทธิของบริษัทในครึ่งหลังของปี 2563 ไม่แตกต่างจากครึ่งแรกของปี 2563 อัตราส่วน P/E จะเท่ากับ 34 เท่า
สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2563 บริษัท ฯ ยังได้รับผลเชิงบวกจากการรับรู้รายได้เพิ่มเติมของ backlog จากหน่วยงานภาครัฐที่โดยมากจะสูงในไตรมาสสุดท้ายของปี รวมถึงกำไรที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกจาก Synergies ต่าง ๆ ที่ทยอยเห็นผลจากการควบรวมกิจการสายไฟฟ้าในเวียดนาม
**กำไรดีกว่าโบรกฯ คาด
บล.เอเชีย พลัส คาดว่ากำไรของ STARK ในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 330 ล้านบาท จากการรับรู้ M&A กิจการที่เวียดนามซึ่งจะมี Synergy ร่วมกันทั้งในด้านขยายฐานลูกค้า ควบคู่กับการลดต้นทุน รวมถึงมองหา Inorganic Growth จากดีล M&A กิจการอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงโควิด-19
นอกจากนี้คาดว่ากำไรในครึ่งปีหลัง จะทรงตัวจากครึ่งปีแรก และจะเติบโตอีกครั้งในปี 2564 ในเบื้องต้นคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 926 ล้านบาท เติบโต 647.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน หนุนหลักจากการรับรู้ Thipha และ Dovina ที่เวียดนาม 9 เดือน ซึ่งคาดจะได้รับผลบวกจาก Synergy ระหว่าง PDITL ซึงมีต้นทุนทองแดงต่ำกับ Thipha และ Dovina ซึ่งมีต้นทุนค่าไฟและแรงงานต่ำ มาช่วยหนุนเอาไว้ ขณะที่ในปี 2564 คาดกำไรจะเติบโตจากขายสายไฟให้กับลูกค้ารัฐและเอกชนในเชิงรุกมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน หาจังหวะเข้าซื้อรับทิศทางกำไรที่จะเติบโตก้าวกระโดด โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 เท่ากับ 2.52 บาทต่อหุ้น
ราคาหุ้น STARK เช้านี้ อยู่ที่ 2.26 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 40.88 ล้านบาท
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม