ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เคจีไอ สแกน LH คาดกำไรสุทธิใน Q2/63 จะปรับตัวลง 34% YoY และ 8% QoQ เหลือ 1.2 พันล้านบาท แม้ว่ายอด presales จะออกมาน่าประทับใจ และยอดโอนก็เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ แต่กำไรยังคงถูกฉุดจากรายได้ค่าเช่าและบริการที่อ่อนแอ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือลดลง
ทั้งนี้ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563/64F ขึ้นอีกประมาณ 8% และยังคงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย SOTP ใหม่ที่ 8.80 บาท คาดว่าโครงการแนวราบของ LH จะยังคง outperform ในขณะที่ธุรกิจบริการน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ Q3/63 เป็นต้นไป
ความเคลื่อนไหวของหุ้น LH อยู่ที่ 7.35 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.68% มูลค่าการซื้อขาย 28.59 ล้านบาท
ประมาณการ Q2/63 คาดว่ากำไรจะต่ำสุด ทั้งนี้มูลค่าโครการเปิดใหม่ใน Q2/63 พุ่งขึ้นถึง 79% YoY และ 156% QoQ : LH เปิดโครงการแนวราบใหม่สี่โครงการมูลค่ารวม 9.7 พันล้านบาทใน Q2/63 (+79% YoY, +156% QoQ) ยอด presales ใน 2Q63 อยู่ที่ 7.8 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY, +39% QoQ) โดยยอด presales ของโครงการแนวราบออกมาน่าประทับใจที่ 7.4 พันล้านบาท (+13% YoY, +43% QoQ) เนื่องจากมีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องและได้รับผลการตอบรับที่ดีจากตลาด ในขณะที่ยอด presales ของโครงการคอนโดมิเนียมคาดอยู่ที่ 380 ล้านบาท (-68% YoY, -10% QoQ) เนื่องจากบริษัทไม่ได้จัดแคมเปญส่งเสริมการขายหนักเหมือนคู่แข่ง
โดยคาดกำไรสุทธิใน Q2/63 จะปรับตัวลง 34% YoY และ 8% QoQ เหลือ 1.2 พันล้านบาท แม้ว่ายอด presales จะออกมาน่าประทับใจและยอดโอนที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ แต่กำไรจะถูกฉุดจาก i) รายได้ค่าเช่าและบริการที่อ่อนแอ และ ii) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือลดลง ทั้งนี้ คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในครึ่งปีแรก 63 จะคิดเป็น 51% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
ทั้งนี้คาดยอดโอนที่อยู่อาศัยจะทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 28% QoQ เป็น 6.5 พันล้านบาท หลักๆ หนุนจากยอดโอนโครงการแนวราบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% YoY และ 29% QoQ เป็น 5.9 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 160bps QoQ เป็น 31.1% เนื่องจาก LH ไม่ได้ใช้กลยุทธ์การตัดราคาอย่างหนักเหมือนคู่แข่ง
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือ (มีสัดส่วนคิดเป็น 41% ของกำไรสุทธิใน Q2/63) คาดจะลดลง 36% YoY และ 31% QoQ เหลือ 510 ล้านบาท กดดันจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPRO TB)* และ LH Financial Group (LHFG.BK/LHFG TB)
Valuation & Action
ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563/64F ขึ้นอีกราว 8% เพื่อสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโครงการแนวราบ โดยคาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งใน Q3/63 เนื่องจาก i) มีโครงการแนวราบหลายโครงการที่ประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายและจ่อคิวรอโอนอยู่ อย่างเช่น Indy บางนา-รามคำแหง 2 (ขายได้แล้ว 97% มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท) และ ii) ธุรกิจบริการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ยังคงคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ใหม่ที่ 8.80 บาท (ธุรกิจเดิม 4.30 บาท และธุรกิจการลงทุน 4.50 บาท) คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2563/64 จะอยู่ที่ 6%/7%
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง การก่อสร้างและกำหนดโอนซบเซา
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม