ทันหุ้น-สู้โควิด : BCPG เข้าซื้อโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จาก EP ซึ่งเป็นโครงการในไทย ขนาด 20 เมกะวัตต์ และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว มูลค่าการงทุน 871 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/63 ด้านผู้บริหาร EP เผยได้เงินจากการขาย เตรียมนำไปลงทุนโครงการในเวียดนาม
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ บริษัท อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EP เพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 20 เมกะวัตต์ โดยการซื้อหุ้น 99.99% ในบริษัท อาร์พีวี พลังงาน จำกัด (RPV)
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่บริษัทฯ เข้าซื้อครั้งนี้ ประกอบด้วย โครงการทั้งหมด 4 โครงการ ตั้งอยู่ในบริเวณ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดลพบุรี และจังหวัดปราจีนบุรี มีกำลังการผลิตรวม 10 เมกะวัตต์ 5 เมกะวัตต์ และ5 เมกะวัตต์ ตามลำดับ โดยเป็นโรงไฟฟ้าที่ได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (adder) จำนวน 15 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าที่ได้รับค่าขายไฟฟ้าในแบบ feed-in-tariff จำนวน 5 เมกะวัตต์ ซึ่งโรงไฟฟ้าทุกแห่ง เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว และสามารถรับรู้รายได้ทันทีเมื่อการซื้อขายแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ภายในไตรมาสนี้
“การเข้าซื้อกิจการโซลาร์ฟาร์มดังกล่าว เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ 5 ปีของบริษัทฯ ซึ่งบีซีพีจีมีแผนการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า และการเร่งพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในพอร์ต เพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” นายบัณฑิตกล่าว
**EP เตรียมนำเงินลงทุนที่เวียดนามเพิ่ม
ด้านนายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง บริษัท อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์หรือ ETP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ กับ BCPG โดยจะขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ทั้ง 4 โรง ซึ่งประกอบด้วย โรงไฟฟ้าที่บ่อพลอย ขนาด 5 เมกะวัตต์ 2 โรง โรงไฟฟ้าลพบุรี ขนาด 5 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าปราจีนบุรี ขนาด 5 เมกะวัตต์ รวม 20 เมกะวัตต์ ให้กับ BCPG คิดเป็นมูลค่าขายเบื้องต้น 871 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเงินภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ 721 ล้านบาท และอีก 150 ล้านบาท ภายในเดือนตุลาคม 2565
“การขาย 4 โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทยทั้งหมด ให้กับ BCPG ถือได้ว่าเป็น deal ที่ win-win ทั้งสองฝ่าย โดยบริษัทจะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ โดย จะทำให้บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้น และมีเงินทุนเพียงพอเพื่อรองรับการขยายธุรกิจและการลงทุนในอนาคต
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม จำนวน 60 เมกะวัตต์แล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษา และพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุนโครงการพลังงานลมในประเทศเวียดนาม อีกกว่า 200 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ไม่เกินไตรมาส 3 ของปีนี้
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม