> mai > STI

31 กรกฎาคม 2020 เวลา 09:20 น.

STIกำไรทำจุดสูงสุดQ2 แบ็กล็อกนิวไฮ4.5พันล.

ทันหุ้น - สู้โควิด- โบรกส่องกล้อง STI ส่องกำไรสุทธิทำจุดสูงสุดใหม่ในไตรมาส 2/63หลังรวมงบกับ AEC หนุนแบ็กล็อกทำนิวไฮ 4.5 พันล้านบาท ดีดลูกคิดคำนวนกำไรปี 2563ที่ 135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากปีก่อน คาดปันผล 5-7% เคาะเป้า 10.50 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ว่า  บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เป็นผู้นำในธุรกิจให้คำปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างอย่างครบวงจร โดยมี บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด ถือหุ้นอยู่ราว 30%และกลุ่มผู้บริหาร STI เดิมถือหุ้นอยู่ราว 50%ซึ่งก่อนหน้านี้ STI จะเก่งงานภาคเอกชน ทั้งตึกสูงและโครงสร้างพื้นฐาน


เก็บเกี่ยวงานเต็มที่


แต่หลังจากได้บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต๊นส์ จำกัด (AEC) ที่มีความชำนาญในโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเข้ามาเป็นบริษัทย่อย (STI ถือหุ้นอยู่ 63.75%) ทำให้ STI มีลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม จนกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งถือว่าเข้ามาอยู่ในพอร์ตได้ในเวลาที่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงที่งานภาคเอกชนชะลอตัวพอดี ทำให้ผลประกอบการของ STI มีแนวโน้มโตสวนอุตสาหกรรม และเป็นการเปิดโอกาสให้สามารถเก็บเกี่ยวงานภาครัฐที่จะปล่อยออกมาหลังจากนี้ได้เต็มที่มากขึ้น


แม้งานที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างจะผูกติดกับอุตสาหกรรมรับเหมาฯ ซึ่งชะลอตัวตั้งแต่กลางปีก่อน แต่หลังจากนี้ คาดงานก่อสร้างภาครัฐจะเร่งตัวขึ้น เพราะกระทรวงคมนาคมเป็นหนึ่งในกระทรวงเศรษฐกิจที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรี ทำให้การอนุมัติงานยังเป็นไปตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นหลังจากชะลอในช่วง COVID-19ระบาด


โดยคาดว่าเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐจะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท คิดเป็นการลงทุนทางรางสูงถึง 9 แสนล้านบาท ถือเป็นปัจจัยบวกอย่างมากต่อ STI เพราะ AEC มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ สะท้อนจาก Backlog ที่มีงานทางรางสูงถึง 65%ของพอร์ต นอกจากยังมีโครงการที่กระทรวงคมนาคมเสนอไป 1.37แสนล้านบาท ในส่วนของพรก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท รวมทั้งเมื่อพิจารณางบประมาณปี 2564 พบว่า มีงบด้านการลงทุนสูงถึง 6.93แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


ฐานการเงินแกร่ง


ฐานะทางการเงินของ STI แข็งแกร่งมาก โดยหลังจากรวมงบกับ AEC เข้ามาแล้ว เราคาดว่า D/E ratio อาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 0.7-0.8 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มรับเหมาที่ราว 2.5เท่า และกลุ่มที่ปรึกษาที่ราว 1.0 เท่า จึงมีช่องว่างในการกู้ยืมอีกมากโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ซึ่งจะเป็นการยกระดับ ROE ได้ต่อเนื่องในอนาคต โดยเราคาดว่าจะเพิ่มจาก 14.3%ในปีก่อน เป็น 20.5% ในปีนี้ และ 24.1%ในปีหน้า โดยถ้าอิงจากความสามารถในการรับงานปัจจุบัน และอิง D/E Ratio ของอุตสาหกรรม คาดว่า STI สามารถรองรับงานในแต่ละช่วงเวลาได้สูงถึง 1หมื่นล้านบาท จาก Backlog ปัจจุบันที่มีอยู่ราว 4.5พันลบ. โดยแบ่งเป็นของ STI 2.0 พันลบ. และของ AEC 2.5พันลบ.


ทางฝ่ายคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ที่ 39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% QoQ และ เพิ่มขึ้น 74% YoY ส่วนทั้งปี 2563 คาดที่ 135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% YoY เพราะเร่งปิดงานทั้งของตัวเองและบริษัทลูกได้ต่อเนื่อง


เคาะเป้า 10.50 บ.


ขณะที่ Backlog ปัจจุบัน ถือว่า Secure คาดการณ์รายได้ของเราในปี 2563-64ทั้งหมดแล้ว และคาดว่าจะได้เพิ่มอีกราว 1 พันลบ. ในช่วงที่เหลือของปี ราคาปัจจุบันของ STI คิดเป็น PER2563-64เพียง 11-14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 15เท่า ทั้งที่ STI สร้าง Margin และ ROE ได้สูงกว่ากลุ่มเป็นเท่าตัว ขณะที่ ผลตอบแทนจากปันผลคาดสูงราว 5-7% ต่อปี (ควรซื้อขายที่ PER สูงกว่ากลุ่ม) ประเมินราคาเหมาะสมปี 2564 โดยอิง PER ที่ 15 เท่า ได้เท่ากับ 10.50บาท เริ่มต้นแนะนำ "ซื้อ"

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X