> SET >

26 กรกฎาคม 2020 เวลา 11:16 น.

"โนมูระ พัฒนสิน"ส่องหุ้นกลุ่มแบงก์ ธนาคารไหนปลอดภัย ?

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.โนมูระ พัฒนสิน ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารเพียง Neutral เพราะกลุ่มธนาคารรายงานกำไรไตรมาส 2/63 ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ลดลง 47% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดถึง 30% จากค่าใช้จ่ายสำรองที่มากกว่าคาด และคาดการณ์ครึ่งปีหลังธนาคารส่วนใหญ่จะเผชิญปัญหาหนี้ที่ไม่่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPLs มากขึ้น หลังหมดมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. โดยธนาคารที่มี downside risk จำกัด คือ BBL, KBANK และ TISCO เพราะจัดชั้น NPLs เข้มงวด และเร่งตั้งสำรองไปล่วงหน้า  


ฝ่ายวิจัยโนมูระ พัฒนสิน ได้เลือกหุ้นธนาคารที่ดูปลอดภัย เช่นหุ้น BBL โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 ที่ 130 บาทต่อหุ้น และหุ้น TISCO แนะนำซื้อเช่นกัน ให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 ที่ 80 บาทต่อหุ้น 


**จับตาคุณภาพสินทรัพย์


ประเด็นที่ต้องจับตาใกล้ชิดคือคุณภาพสินทรัพย์ที่คาดอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ภายหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลุกหนี้ของ ธปท. ซึ่งธนาคารมีลูกหนี้ภายใต้มาตรการดังกล่าวราว 10-40% มองว่าธนาคารที่มี downside risk ต่ำ คือที่ดำเนินมาตรการในครึ่งปีแรก ดังนี้ เร่งตั้งสำรองสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น BBL, KBANK และ TISCO เพื่อเตรียมรองรับต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และจัดชั้นลุกหนี้เข้มงวด เพื่อลดความเสี่ยงการตกชั้นเป็น NPLs ในอนาคต โดย BBL รายงาน Gross NPLs ในไตรมาส 2/63 เร่งตัวขึ้น 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ เพราะดำนินการปรับลูกหนี้ที่มีสัญญาณจะเป็น NPLs ให้ตกชั้นเป็น NPLs ทันที และ TISCO ไม่คงสถานะลูกหนี้เป็นลูกหนี้ปกติ ภายหลังปรับโครงสร้าง ซึ่งเข้มงวดกว่ามาตรการ ธปท. 


หากพิจารณารายธนาคาร พบว่าเกือบทุกแห่งรายงานกำไรหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ นำโดย KBANKกำไรไตรมาส 2/63 ลดลง 78% เทียบกับช่งเดียวกันปีก่อน และลดลง 71% เทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ ตามด้วย BBL กำไรลดลง 67% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 60% เทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งทั้งสองธนาคารได้ตั้งสำรองล่วงหน้า เตรียมความพร้อมต่อการตกชั้นเป็น NPLs ภายหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท. 


ส่วน KTB กำไรไตรมาส 2/63 ลดลง 53% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 37% จากไตรมาสแรกปีนี้ เพราะตั้งสำรองต่อมูลหนี้ของบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) หรือ THAI  ด้าน KKP กำไรไตรมาส 2/63 ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 20% จากไตรมาสแรกปีนี้ โดยถูกกดดันจากทั้งค่าใช้จ่ายสำรอง และขาดทุนรถยืดเพิ่มขึ้นตามความผันผวนของตลาดรถมือสอง 


ขณะที่ SCB ไตรมาส 2/63 กำไรลดลง 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 10% จากไตรมาสแรกปีนี้ นับเป็นธนาคารที่รายงานกำไรดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาด เพราะมีกำไรพิเศษจากการขายพอร์ตสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ด้าน TMB ไตรมาส 2/63 กำไรเพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 26% จากไตรมาสแรก ที่กำไรเพิ่มขึ้น เพราะอานิสงค์จากการควบรวมกับธนาคารธนชาต หรือ TBANK


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X