ทันหุ้น – สู้โควิด – บิ๊ก CENTEL ปลื้ม “เราเที่ยวด้วยกัน” กระตุ้นยอดจองที่พักทุกโรงแรมในเครือ CENTEL ดันยอดเข้าพักเฉลี่ยขึ้นแตะ 40% ลั่นไตรมาส 3/2563 พลิกมีกำไร เชื่อท่องเที่ยวปกติไตรมาส 4/2564 ด้าน ททท. ขยายฐานไฮเอนด์เที่ยวไทย เดินหน้าศึกษา Travel Bubble ไม่หยุด สร้างความพร้อม

ดร.รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) CENTEL ระบุ หลังจากโรงแรมในเครือ CENTEL เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” อัตราการเข้าพัก (Occupancy rate) ปรับตัวดีขึ้น จึงคาดว่า ไตรมาส 3/263 บริษัทจะกลับมามีกำไรจากไตรมาส 2/2563 ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานอ่อนแอจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะเดียวกันทาง CENTEL ได้จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษเพิ่มเติมให้กับผู้ถือบัตร “The One” เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า รวมถึงเริ่มรับการจัดสัมมนาฟอรัมใหญ่ๆ โรงแรมทำเลสำคัญในกรุงเทพฯ เพื่อแสดงถึงศักยภาพการบริหารจัดการผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นจำนวนมาก

“ทาง CENTEL มีโปรโมชั่นด้านราคาเสริมกับมาตรการภาครัฐเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจจองห้องพัก รวมถึงเพิ่มมาตรการรักษาความสะอาดและการให้บริการที่ดีให้กับผู้ใช้บริการทุกท่าน เพราะอยากให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดีระหว่างพักผ่อนในโรงแรมเครือ CENTEL หวังให้กลับมาใช้บริการของ CENTEL อย่างต่อเนื่อง”

ณ ปัจจุบันโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วประกอบด้วย โรงแรมเซ็นทารา แอท เซ็นทรัลเวิลด์, โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว, โรงแรมมิราจในเครือเซ็นทรัล, โรงแรมโคซี่ พัทยา และ กลางเดือนกรกฏาคมนี้ จะเปิดให้บริการโรงแรมที่ ภูเก็ต, หัวหิน, และ สมุย โดยโรงแรมทุกโรงแรมในเครือ CENTEL รวมถึงในมัลดีฟส์จะเปิดให้บริการครบ 100%ในช่วงไตรมาส 3/2563 นี้

สำหรับอัตราการเข้าพัก (Occupancy rate) ปัจจุบันสามารถทำได้กว่า 40% คาดว่าจะเห็นอัตราการเข้าพักเป็นปกติมากกว่า 80% หรือเทียบเท่ากับปี 2562 ประมาณปลายปี 2564 – 2565 ตามประมาณการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) รวมถึงความคาดหวังการผลิตวัคซีนซึ่งทั้งรัสเซีย, จีน, รวมถึงสหรัฐอเมริกาที่เร่งพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ในมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“มาตรการภาครัฐบาลสามารถกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดีทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และการกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐจัดสัมมนาภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ภาคเอกชนก็มีความมั่นใจมากขึ้นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะทยอยฟื้นตัว เพราะเมื่อประชาชนมีความมั่นใจก็จะกลับมาเดินทาง”

เดินหน้าTravel Bubble

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุ ททท.จะขยายฐานนักท่องเที่ยวชาวไทย ไปสู่กลุ่มที่นิยมเดินทางไปต่างประเทศให้หันมาท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีศักยภาพในการใช้จ่ายระหว่างการเดินทางสูง

โดย ททท. ได้จัดแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวโดยจัดโปรโมชั่นให้ผู้ที่จองตั๋วเครื่องบิน - ที่พักในต่างประเทศแต่สถานการณ์ โควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนกำหนดการเดินทางออกไปนำหลักฐานดังกล่าวมาแสดง ททท.จะมีส่วนลดพิเศษเพิ่มให้อีก 10-15%

“แต่ละปีคนไทยเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศประมาณ 12-13 ล้านคน มูลค่าเงินที่ใช้ในต่างประเทศ 4 แสนล้านบาท กลุ่มนี้ประมาณ 69% อยากเที่ยวในประเทศไทย ถ้าไม่ได้ไปเมืองนอก แต่สำคัญที่สุดคือสถานที่ท่องเที่ยว - โรงแรม ฯลฯ มีโปรดักท์ที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการมากน้อยเพียงใด”

ส่วนเรื่องการจะเปิดประเทศตามโครงการ  “ทราเวลบับเบิล” (Travel Bubble) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก พร้อมกันนี้ยืนยันว่า หากจะเปิดรับนักท่องเที่ยวจะเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง และดำเนินงานอย่างเป็นขั้นตอน

"โมเดลเซฟโซน ก็มีความเป็นไปได้ มีการศึกษาและพูดคุยกับทุกฝ่ายมาอย่างต่อเนื่อง เพราะไทยพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างประเทศในอัตราที่สูง ถ้าไม่มีกลุ่มนี้เข้ามาในระยะยาวผู้ประกอบการก็ลำบาก แต่ถ้านักท่องเที่ยวจะเข้ามาต้องอยู่ยาว เพราะเข้ามาแล้ว ต้องมีการตรวจอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และต้องตรวจพนักงานโรงแรมด้วย”