ทันหุ้น- THCOM จับมือ PTTEP ส่งบริษัทลูกเข้าพัฒนาสินค้าและบริการเกี่ยวกับอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนเพื่อการเกษตร ด้วยการจัดตั้งบรริษัทร่วมกัน มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ถือหุ้นในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง THCOMมองเป็นโอกาสในการเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) โดยบริษัทย่อย บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด และบริษัท ไทย แอดวานซ์ อินโนเวชั่น จำกัด เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ได้ร่วมกันจัดตั้ง บริษัท เอทีไอ เทคโนโลยีส์ จำกัด พัฒนาสินค้าและบริการเกี่ยวกับอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อการเกษตร และนำเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) มาใช้เสริมศักยภาพภาคเกษตรกรรมของไทย รวมถึงให้บริการแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลด้านการเกษตรและให้บริการด้านการเกษตรแบบครบวงจร

สำหรับบริษัทจัดตั้งใหม่มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดย PTTEP และ THCOM ถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันฝ่ายละ 50% ซึ่งคาดว่าจะจดทะเบียนบริษัทเสร็จสิ้นภายในเดือน กรกฎาคม 2563 การร่วมทุนดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ผ่านการปรับใช้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มประสิทธิผล เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ กับบริษัทในระยะยาว

ด้าน THCOM ระบุว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการใช้องค์ความรู้ที่มีร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการผลิตและประกอบโดรนเพื่อการเกษตร และการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการบังคับควบคุมโดรน รวมถึงการพัฒนาการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ (Data Analysis) และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับภาคเกษตรกรรมของไทย และบริษัทยังได้รับประโยชน์จากการเพิ่มโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ และการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน จากการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ที่แตกต่างจากเดิม

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง THCOM คาดว่ากำไรหลัก ใน 2Q63 จะอยู่ที่ 2 ล้านบาท ลดลงถึง 99% QoQ แต่ดีขึ้นจากที่ขาดทุนหลัก 7 ล้านบาทใน 2Q62 โดยกำไรที่ลดลงใน QoQ เป็นเพราะรายได้จากดาวเทียมไทยคม 4 (iPSTAR) และไทยคม 5 ลดลง แต่เมื่อเทียบ YoY ผลประกอบการจะได้อานิสงส์จากต้นทุนค่าเสื่อมราคาที่ลดลง เพราะมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของดาวเทียมไปถึง 1.4 พันล้านบาทใน 4Q62

บล.เคจีไอ มองว่า หากผลประกอบการ 2Q63 เป็นไปตามคาด จะทำให้กำไรหลักในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 107 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าประมาณการกำไรทั้งปีนี้ที่ บล. เคจีไอคาดไว้ที่ 36 ล้านบาท นอกจากนี้กำไรปี 2564 มีโอกาสจะออกมาดีกว่าประมาณการบล.เคจีไอคาด ที่ 12 ล้านบาท หากโครงการกิจการร่วมค้า (Joint Venture) สามารถเริ่มดำเนินการได้ในปี 2564 ดังนั้น บล. เคจีไอ จึงมองว่าประมาณการกำไรปี 2563-64 ของยังมี upside