> mai > SUN

17 กรกฎาคม 2020 เวลา 09:00 น.

SUNข้าวโพดกระป๋องขายดี ส่งออกทะลัก-อัพกำลังผลิต

ทันหุ้น – สู้โควิด -SUN ข้าวโพดกระป๋องขายดี ยอดส่งออกทะลัก ในกลุ่มเอเชีย และยุโรป เล็งอัพกำลังการผลิตทะลุ70% ด้านผู้บริหารเผยตุนออร์เดอร์ยาวถึงกลางปีหน้าแล้ว เชื่อผลงานครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้า ส่วนครึ่งปีหลังโตต่อ ส่งซิกมีลุ้นพลิกบวก จากปีก่อนที่ขาดทุน 41.88 ล้านบาทเล็งปรับเป้ารายได้จากเดิมที่คาดโต 15-20%


ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปรายใหญ่ของประเทศภายใต้แบรนด์ “KC” เปิดเผยว่า บริษัทประเมินภาพรวมทุกธุรกิจ และเศรษฐกิจในประเทศยังอยู่ในภาวะที่ถดถอย แต่ธุรกิจบริษัทอยู่ในหมวดของอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้บริโภค ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ข้าวโพดยังไปต่อได้ ขณะเดียวกันแผนการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ บริษัทยังสามารถส่งสินค้าได้ตามปกติ และส่งสินค้าขายมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเอเชีย เได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และยุโรป


กำลังผลิตเกิน70%


โดยสินค้าที่มียอดขายดีขึ้น คือสินค้าประเภทกระป๋อง และมีคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ยาวไปจนถึงไตรมาส 1 และ 2/2564 ปัจจุบันบริษัทกำลังการผลิตอยู่ที่ 70% และยังมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อออเดอร์ใหม่ ทั้งนี้คาดในครึ่งปีหลังปี 2563 บริษัทจะมีกำลังการผลิตเกิน 70%


สำหรับกำลังการผลิตปัจจุบันต่อ 1 วัน (24ชั่วโมง) อยู่ที่ประมาณ 500 ตันต่อวัน ส่วนในช่วงหน้าแล้งบริษัทมีกำลังการผลิต 300-400ตันต่อวัน ซึ่งบริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต สูงสุดอยู่ที่ 700ตันต่อ นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตในส่วนแช่แข็งเป็น 1.5-2หมื่นตันต่อปี จากเดิมที่ 5 พันตันต่อปี รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อการผลิตสินค้าในสูญญากาศ


ส่วนทิศทาง6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีผลงานค่อนข้างดี และเติบโตได้ตามเป้าหมาย แม้ใน 3 เดือนแรกยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้ามากนัก แต่ในไตรมาส 2/2563 ยอดขายเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับบริษัทได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า คาดจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง


ครึ่งปีหลังไตต่อ


ขณะเดียวกันบริษัทคาดทิศทางธุรกิจและผลประกอบการครึ่งปีหลังปี 2563 จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เบริษัทมีออเดอร์รอส่งมอบให้กับลูกค้าแล้ว อีกทั้งบริษัทเตรียมปรับเป้าหมายรายได้ในปี 2563 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ 15- 20% ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ เนื่องจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค


และบริษัทมั่นใจผลประกอบการปีนี้จะพลิกเป็นบวก จากปีก่อนขาดทุน 41.88 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่จะสนับสนุนให้บริษัทกลับมาเป็นบวกได้จะมาจากการเติบโตของลูกค้าต่างประเทศ ประกอบกับบริษัทประเมินทิศทางภัยแล้งเริ่มดีขึ้น อีกทั้งบริษัทได้ร่วมมือกับเกษตรกรในพื้นที่ ที่ทำบ่อน้ำ สำหรับรองรับการปลูกวัตถุดิบในการผบิตสินค้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องวัตถุดิบ


อนึ่ง ในไตรมาส 1/2563 มีกำไรสุทธิ 10.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาท หรือ 20.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.63 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเติบโตในไตรมาส 1/2563 ที่ 40.8% และมีความสามารถในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดี

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X