> SET >

14 กรกฎาคม 2020 เวลา 11:41 น.

กูรูมองกลุ่มแบงก์เจ็บแต่จบ ชี้ถือยาวกำไรดีกว่าดบ.ฝาก

ทันหุ้น - สู้โควิด – คาดไตรมาส 2/2563 กลุ่มแบงก์พาณิชย์ กำไร 3.2 หมื่นล้านบาท หดตัว 10% กดดันจาก NIM ที่ลดลงถึง 0.25% จับตาตั้งสำรองหนี้แท้จริงช่วงไตรมาส 3/2563 เชื่อฐานะการเงินแกร่งรองรับ NPL ได้สูงถึง 10% จากปัจจุบัน NPLอยู่ที่ราว 3% ลุ้นรวบจ่ายปันผลงวดสิ้นปี 2563 แนะทยอยสะสมหลังงบไตรมาส 3/2563ออก


นายธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 ของแบงก์ จำกนวน 6 แห่งมีกำไรสุทธิที่ 3.2 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) และลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยคาดการณ์ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin หรือ NIM) ลดลง 0.25% QoQ เป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง และ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เฉพาะเจาะจง


นายธนภัทร ระบุว่าแม้ผลการดำเนินงานกลุ่มแบงก์พาณิชย์จะอ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจ แต่มีฐานะแข็งแกร่ง ด้วยเงินกองทุนในอัตราสูง ทำให้มีแนวโน้มว่ากลุ่มแบงก์พาณิชย์จะจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีได้ตามปกติ และสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ไม่ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกลาก็มีแนวโน้มที่รวบยอดจ่าย ณ งวดสิ้นปี 2563


ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์พาณิชย์ปัจจุบันที่ซื้อ-ขาย บน P/BV เฉลี่ย 0.4-0.6 เท่า ประกอบกับความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน จึงแนะนำนักลงทุนที่มีหุ้นกลุ่มแบงก์อยู่ในพอร์ตถือลงทุนระยะยาว (3 ปี) ได้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และหุ้นกลุ่มแบงก์ยังเป็นทางเลือกสามารถทยอยสะสมได้หลังการประกาศผลงบไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป


“เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ จึงยังไม่สามารถประเมิน NPL ที่แท้จริงได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าจากมูลหนี้ประมาณ 6.8 ล้านล้านบาทจะตกชั้นลงมาเป็น NPL ที่แท้จริงไม่ถึง 10% ซึ่งทั้งกลุ่มมี NPL เพียง 3% และด้วยฐานะการเงินที่แข็งแกร่งทุกแบงก์สามารถตั้งสำรองให้จบได้ภายในไตรมาสเดียว นักลงทุนจึงควรพิจารณาเลือกสะสมในช่วงดังกล่าวโดยมอง BBL เสี่ยงน้อยที่สุด”


ทั้งนี้ SCB กำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2563 ของ SCB ที่ 7,789 ล้านบาท อ่อนตัว 16%QoQ และ 29%YoY

แม้ว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ราว 2% แต่ NIM ยังอ่อนตัวลงราว 0.27% จากการลดดอกเบี้ย เบื้องต้นประมาณการกำไรทั้งปี 2563 ที่ 30,568 ล้านบาท ลดลง 24% YoY


ส่วน BBL กำไรสุทธิที่ 7,463 ล้านบาท อ่อนตัว 3%QoQ และ 20%YoY แม้ว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ราว 2% แต่ NIM อ่อนตัวลงราว 0.24% คาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2563 ที่ 28,943 ล้านบาท ลดลง 19% YoY สำหรับ KBANK คาดกำไรที่ 6,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%QoQ จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยแต่ยังลดลง 32%YoY ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรทั้งปี 2563 ที่ 28,205 ล้านบาท ลดลง 27%YoY


กำไรสุทธิของ TMB ที่ 3,117 ล้านบาท อ่อนตัว 25% QoQ และ 63% YoY พร้อมคาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต 4% QoQ หนุนจากการบันทึกรายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำสัญญากับ Prudential เพิ่มเติม ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิอาจเติบโตราว 17%QoQ เบื้องต้นประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2563 ที่ 14,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% YoY

คาดกำไรสุทธิของ 


TISCO  ที่ 1,495 ล้านบาท ทรงตัว QoQ แต่อ่อนตัว 17%YoY ประมาณการกำไรทั้งปี 2563 ที่ 6,147 ล้านบาท ลดลง 16% YoY และคาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 2/2563 ของ KTB ที่ 5,485 ล้านบาท อ่อนตัว 15%QoQ และ 33%YoY คาดการณ์กำไรทั้งปี 2563 ที่ 21,344 ล้านบาท ลดลง 27% YoY

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X