> SET > JMART

14 กรกฎาคม 2020 เวลา 08:30 น.

JMARTโมบายไปต่อ ชูบาทแข็งต้นทุนลด

ทันหุ้น –สู้โควิด –JMART เปิดร้านขายมือถือยาวขึ้น รับขยายเวลาเปิดห้าง 4 ทุ่ม หนุนไตรมาส 3/2563 ฟอร์มแจ่ม แถมรับอานิสงส์บาทแข็งหนุนต้นทุนลด บิ๊ก "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา " คอนเฟิร์มปีนี้ผลงานโต 25% จากปีก่อน รับดีมานด์ฟื้นตัว-ต้นทุนการเงินลด ส่วนดีล KB ร่วมทุนบ.เครือ "เจ ฟินเทค" คาดกระบวนการเสร็จช่วงไตรมาส 3/2563 นี้


นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในฐานะโฮลดิ้ง คอมพานี ที่ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลงานในไตรมาส 3/2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 2/2563 เนื่องจากธุรกิจได้รับอานิสงส์จากการที่ทางภาครัฐได้มีการขยายระยะเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าถึงเวลา 24.00 น. จากเดิมที่ 21.00 น.และมีผลเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมานั้นทาง JMART มองว่ายังถือเป็นอีกประเด็นที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้เข้าใช้บริการในสาขาต่างๆ ของธุรกิจขยายตัว ประกอบกับช่วยสนับสนุนยอดขายมือถือและสินค้าที่เกี่ยวข้องธุรกิจธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย


ส่วนทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (อิงข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ 9 กรกฎาคม 2563) นั้นบริษัทมองว่าน่าจะถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ เพราะช่วยทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าเข้าจำหน่าย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ " เจมาร์ท โมบาย" ปรับตัวลดลง ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิ์ภาพยิ่งขึ้น


*ร่วมทุนหนุนต้นทุน


นายอดิศักดิ์ กล่าวเสริมว่า ในแง่ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องบริษัท เจ ฟินเทค จำกัด (J Fintech) (ซึ่งเป็นบริษัทย่อย JMART) ดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ร่วมกับ KB Kookmin Card Co., Ltd บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตการ์ด และสินเชื่อส่วนบุคคลรายใหญ่ของเกาหลีใต้ โดยผ่านการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อย ด้วยมูลค่า 650,000,000 บาท โดยเป็นการเพิ่มทุน เป็น 1,112,851,210 บาท แบ่งเป็นออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน และโอนหุ้นเดิมให้อีก 1 หุ้น รวมจำนวนหุ้นทั้งหมด 55,631,431 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) หุ้นละ 10 บาท และเจมาร์ท และเจเอ็มทีจะสละสิทธิ์การจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในเจฟินเทคดังกล่าวนั้นปัจจุบันอยู่ในกระบวนการพิจารณาในขั้นตอนต่างๆ คาดน่าจะเสร็จในช่วงไตรมาส 3/2563


อย่างไรก็ดี ในปี 2563 บริษัทเชื่อรายได้น่าจะเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนที่มีกำไรราว 533 ล้านบาท เพราะคาดผลงานในช่วงที่เหลือปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางของต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลง หลังบริษัทในเครือ “เจ ฟินเทค” ได้มีการร่วมทุนกับพาร์เนอร์รายใหญ่เพิ่มเติม ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


ทั้งนี้ ภายหลังการเข้ารวมทุนดังกล่าว "เจ ฟินเทค" ได้รับประโยชน์จากการนำเอาความรู้และเทคโนโลยีทางการเงินของ KB Kookmin Card เข้ามาเสริมกลุ่มบริษัทในระยะยาว และจะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มบริษัท ทั้งกลุ่มบริษัทเจมาร์ท และ KB Kookmin Card จะได้ร่วมงาน และขยาย Synergy ในการดำเนินธุรกิจการเงินในประเทศไทย ซึ่งยังคงมีศักยภาพในการทำ รวมทั้ง JMART คาดจะได้รับชำระเงินที่ได้ปล่อยให้กับ "เจ ฟินเทค" เดิมเกือบ 3,000 ล้านบาทคืนเข้ามาในช่วงครึ่งหลังปี 2563 และหากทุกอย่างสำเร็จตามที่วางไว้จะทำให้ตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ปรับตัวลดลง จากเดิมที่ 2.4 เท่า เหลือราว 0.5 เท่า


*เล็งปรับราคาเป้าหมายใหม่


บริษัหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่าถึง JMART ว่าภายหลังจากการที่ J-Fintech มีการปรับโครงสร้างทุนที่ได้ KB เข้ามาร่วมลงทุน คาดจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนมิถุนายนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ JMART ได้รับกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม ราว 150-200 ล้านบาท และจากการประชุมทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับกำไรปี 2563 ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากกำไรพิเศษที่จะเข้ามา


นอกจากนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานของ JMT ที่ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าดีกว่าคาดไว้ (ซึ่งนักวิเคราะห์กลุ่มการเงินของนั้นมีการปรับกำไรขึ้นไปหลังจากงบไตรมาส 1/2563 ออก) อีกทั้งแนวโน้มการดำเนินงานของ SINGER ที่คุม NPL ให้ลดลงได้ ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์จึงมีแนวโน้มปรับกำไรปี 2563 เพิ่มเติม รวมทั้งปรับคำแนะนำและราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นต่อไป

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X