ส่องงบ Q2 กลุ่มแบงก์ , ชูหุ้นไหนเด่น

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์  โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 2/63 จะลดลง ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ขณะเดียวกันได้ให้น้ำหนักกลุ่มนี้เท่ากับตลาด โดยเลือกหุ้นธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม 

ฝ่ายวิจัยบล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ คาดการณ์ว่าธนาคาร 8 แห่งที่อยู่ในการวิเคราะห์จะมีกำไรรวมอยู่ที่ 4.09 หมื่นล้านบาท ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 12% จากไตรมาสแรกปีนี้ จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง ผลกระทบจากมาตรการปิดเมือง หรือล็อคดาวน์ การตั้งสำรองที่สูงขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงจาก NPL ที่สูงขึ้น โดยคาดว่าครึ่งแรกปีนี้กำไรสุทธิรวมจะลดลง 17% จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง 

โดยธนาคารได้ออกมาตรการบรรเท่าหนี้และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลดภาระทางการเงินของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าบุคคลรายย่อย และลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ จึงมีความกังวลว่าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบบางส่วนอาจจะถูกเปลี่ยนการจัดชั้นเป็น NPL ได้ หากลูกค้าไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ทั้งนี้ NPL อาจ จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และธนาคารอาจจะต้องมีการตั้งสำรองสูงขึ้น 

ฝ่ายวิจัย ให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารพาณิชย์เท่ากับตลาด โดยหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลดลง 20-40% นับจากต้นปีนี้ โดยกลุ่มธนาคารทำการซื้อขายที่ P/B ปี 2563 ที่ประมาณ 0.6 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับในช่วงวิกฤตการณืการเงินในเอเซีย (P/B ที่ 0.6 เท่าในปี 2540) และต่ำกว่าในช่วงวิกฤตทางการเงินโลก (0.7 เท่าในปี 2551) แม้ราคาหุ้นจะสะท้อนความไม่แน่นอนไปบ้างแล้ว แต่ยังมีความกังวลว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งที่เศรษฐกิจจะกลับมาดำเนินได้ปกติ ธุรกิจธนาคารน่าจะยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณความต้องการสินเชื่อที่อ่อนแอ และการเพิ่มขึ้นของ NPL ในอนาคต 

อย่างไรก็ตามได้เลือกหุ้น BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม เนื่องจากมีราคาหุ้นที่ค่อยข้างถูก รวมถึงมีเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 15.7% และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง และการที่เป็นธนาคารขนาดใหญ่จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำกัด ซึ่งคาดว่าการเติบโตกำไรของ BBLจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 คาดว่าจะโต 9% ขณะที่ในปีนี้คาดว่าจะลดลง 12% โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 146 บาทต่อหุ้น 

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1