> SET > JMT

10 กรกฎาคม 2020 เวลา 10:43 น.

JMT เด่นสุดในกลุ่ม AMC โบรกอัพเป้าหมายใหม่

ทันหุ้น-สู้โควิด : ทรีนีตี้ จำกัด ส่อง บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT คาดกำไร Q2/63 ที่ 205 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1%QoQ แต่ยังโตสูง 38%YoY รายได้จากลูกหนี้ที่รับซื้ออาจลดลงเล็กน้อย หลังหนี้บางกองที่ใกล้ตัดต้นทุนหมด ส่วนผลกระทบจาก COVID-19 น้อย เนื่องจากการรับรู้รายได้ตามเกณฑ์คงค้าง โดยคาดธุรกิจประกันกลับมาทำกำไรได้ สำหรับแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังสดใส จากผลบวกของหนี้บางกองที่ตัดต้นทุนหมด ปรับสมมติฐานเงินลงทุนซื้อหนี้ขึ้นเป็น 4.5-5 พันล้านบาท (จากเดิม 3.5-4 พันล้านบาท) มองเด่นสุดในกลุ่ม AMC ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 30 บาท แนะนำ "ซื้อ"


ความเคลื่อนไหวของหุ้น JMT อยู่ที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.85% มูลค่าการซื้อขาย 308.56 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดกำไร Q2/63 ยังแข็งแกร่ง ที่ 205 ล้านบาท อ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย 1%QoQ แต่ยังเติบโตสูงถึง 38%YoY โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1. คาดรายได้จากการให้บริการติดตามหนี้ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แม้ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนักอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ในช่วง Lock down ทำให้อัตราสำเร็จในการติดต่อลูกหนี้เพิ่มสูงขึ้น


2. คาดรายได้จากลูกหนี้ที่รับซื้อลดลงเล็กน้อยราว 2%QoQ โดยผลกระทบจากช่วง COVID-19 และการช่วยเหลือลูกหนี้ทำให้กระแสเงินสดรับลดลงบ้าง แต่ในแง่ของรายได้ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากรับรู้รายได้ตามเกณฑ์คงค้าง (EIR) อย่างไรก็ตามรายได้ที่ลดลงเป็นผลกระทบมาจากหนี้บางกองที่ใกล้ตัดต้นทุนหมดในไตรมาสนี้ ทำให้รับรู้รายได้น้อยลง


3. การควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวมอาจดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากฐานลูกหนี้ที่รับซื้อใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บริษัทยังไม่เพิ่มจำนวนพนักงาน แต่ในอนาคตวางแผนจะนำระบบ IT มาเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้แทน


4. สำหรับธุรกิจประกันในไตรมาสก่อนได้รับผลกระทบจากการขายประกัน COVID-19 ที่ต้องตั้งสำรองในระดับสูง (แต่ยอดเคลมจริงอาจต่ำมาก เนื่องจากอัตราการระบาดดีขึ้นเรื่อยๆ) แต่รายได้จากการขายประกันเป็นการทยอยรับรู้รายได้ ทั้งนี้เราคาดว่าในไตรมาสนี้ธุรกิจประกันจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้


คงประมาณการกำไรปี 63 อัพประมาณการปี 64 

โดยคงประมาณการกำไรสำหรับปี 63 ที่ 850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%YoY มองช่วงที่เหลือของปีผลประกอบการจะยังแข็งแกร่ง เฉพาะในครึ่งปีหลังอาจมีการตัดต้นทุนหนี้บางกองครบ ซึ่งจะทำให้กำไรปรับเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง 


นอกจากนี้ NPL ในระบบที่อาจเพิ่มสูงขึ้นมากจะเป็นปัจจัยบวกต่อการซื้อหนี้ของบริษัท ตั้งเป้าจะใช้เงินลงทุนราว 4.5-5 พันล้านบาท และ 4 เดือนแรกของปีนี้ซื้อหนี้มาคิดเป็นมูลหนี้รวมราว 1 หมื่นล้านบาทแล้ว (ยังไม่ทราบเงินลงทุน) ซึ่งฐานหนี้ที่เพิ่มขึ้นด้วยอัตราที่เร่งตัวจะเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้และกำไรของบริษัทในระยะถัดไป ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ขึ้นราว 10% โดยปรับสมมติฐานเงินลงทุนซื้อหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4.5-5 พันล้านบาท สำหรับปีนี้เป็นต้นไป (เดิม 3.5-4 พันล้านบาท)


ปรับราคาเป้าหมายเป็น 30 บาท ไปใช้ของปี 64 พร้อมปรับสมมติฐานการซื้อหนี้ ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 30 บาท อิงวิธี DCF มองเด่นสุดในกลุ่ม AMC แนะนำ "ซื้อ"


ความเสี่ยง: สภาวะเศรษฐกิจอาจส่งผลต่ออัตราการจัดเก็บหนี้และกระแสเงินสดและในกรณีที่การซื้อหนี้ของบริษัททำได้ต่ำกว่าที่เราประมาณการไว้ซึ่งอาจมีผลต่อกระแสเงินสด

          

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1 

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X