ทันหุ้น – สู้โควิด –MTC มั่นใจยอดปล่อยสินเชื่อครึ่งหลังปี 2563 ฟื้นแรง รับคลายล็อกดาวน์ หนุนฐานลูกค้าขยายตัว พร้อมทุ่มงบ 120 ล้านบาท เพิ่มสาขาใหม่ 300-400 สาขา อัพฐานโกยรายได้เพิ่ม ด้านโบรกประเมินผลงานไตรมาส 2/2563 ดีต่อเนื่อง เชื่อมีกำไรไม่ต่ำกว่า 4.55 พันล้านบาท โต 7%

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อใหม่ในครึ่งหลังปี 2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกปีนี้ หลังทางภาครัฐได้มีการประกาศคลายล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ฐานลูกค้าขยายตัว โดยปัจจุบันสัดส่วนของพอร์ตสินเชื่อของ MTC แบ่งเป็น การปล่อยสินเชื่อในส่วนของจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซด์) ประมาณ 37%, สินเชื่อด้านรถยนต์ 35%, ที่ดิน 10% ส่วนที่มาจากอื่นๆ

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนทุ่มเงินลงทุนราว 90-120 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาใหม่เพิ่มเติม 300-400 สาขา ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ (ล่าสุดมีจำนวน 3,400 สาขา) หวังขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น รวมทั้งสนับสนุนยอดหารปล่อยสินเชื่อของธุรกิจในอนาคตอีกทางหนึ่ง

*กำไรแกร่งเป้า 63 บ.

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น MTC ให้ราคาเป้าหมาย 63.00 บาท หลังจากแนวโน้ม NPLs ที่จะทรงตัว และไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงอย่างที่ฝ่ายวิเคราะห์เคยประเมินภายใต้สถานการณ์ COVID-19 และลูกหนี้ส่วนใหญ่ของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจาก GDP ที่ ธปท. ประกาศลดลงเป็น -8.1% เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รอบ 2 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาวันที่ 19 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมานั้นส่งผลกระทบเฉพาะกระแสเงินสดเล็กน้อย และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำไรขาดทุน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อ (loan yield) เฉลี่ยของบริษัทที่ 21.7%นั้นต่ำกว่าเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงเป็น 24%

สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ย 22% ที่คิดภายหลังการลดค่างวดลงอย่างน้อย 30% ที่ ธปท. กำหนดให้เป็นมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำสำหรับลูกหนี้ชั้นดี อีกทั้งบริษัทได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ 3 เดือน (มิ.ย.-ส.ค.63) อยู่แล้ว ส่วนสินเชื่อรถจักรยานยนต์ที่ 21.25% (เดิม 21.55%) และรถยนต์ที่ 19% (เดิม 20.55%) ตลอดจนฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าลูกหนี้จะเข้ามาขอความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นน้อย เนื่องจากบริษัทได้ช่วยเหลือลูกหนี้ส่วนใหญ่แล้วในรอบก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบันบริษัทได้ช่วยเหลือลูกหนี้แล้วทั้งหมดประมาณ 5 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8%ของสินเชื่อรวม โดยได้ช่วยเหลือผ่านการพักชำระหนี้, การลดค่างวด และลดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลเป็น 22% จาก 25%โดยการลดดอกเบี้ยนี้บริษัทจะให้เป็นส่วนลดเงินสดแก่ลูกหนี้ (บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน) แทนการปรับเปลี่ยนสัญญา

*ผลงาน Q2 ขยายตัว

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าจะยังขยายตัวจากไตรมาส 1/2563 ผลจากการเติบโตของสินเชื่อ (Loan Growth) ที่ทรงตัว จากความต้องการสินเชื่อที่ลดลง และมีการปิดบัญชีก่อนกำหนดสูง ภายหลังที่ลูกหนี้ได้รับเงินอัดฉีดภาคการเกษตร และได้รับเงิน 5.0พันบาทของโครงการเราไม่ทิ้งกัน, 2.NPLs ratio ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.2%จากไตรมาส 1/2563 ที่ 1.18%ตามฐานสินเชื่อรวมที่ต่ำลง

พร้อมกันนี้ ในแง่ต้นทุนทางการเงินของบริษัทเองก็ปรับตัวลงจากไตรมาส 1/2562 และ ค่าใช้จ่าย SG&A จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากส่วนลดดอกเบี้ยที่บริษัทให้ลูกค้าคิดเป็นมูลค่าประมาณ 50ล้านบาท อีกทั้งทาง MTC ยังคงเป้าการขยายสาขาปี 2563 ที่ 600 แห่งเท่าเดิม และปี 2564 จะเพิ่มขึ้นสูงจากการเข้าเปิดสาขาในพื้นที่ที่คู่แข่งรายเล็กได้ปิดลง

ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 4.55 พันล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน ผลจากสินเชื่อขยายตัวที่ 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามสาขาที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.7 พันแห่ง (จากปี 2562 ที่ 4.1 พันแห่ง) สำหรับกำไรสุทธิปี 2563 คาดกำไรที่ 5.4 พันล้านบาท เติบโต 19% จากปีนี้ ตามยอดสินเชื่อที่ขยายตัว

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1