ทันหุ้น –สู้โควิด –ZEN ส่งซิกยอดขายต่อสาขาพลิกบวก รับอานิสงส์รัฐคลายล็อกดาวน์ดั นอัตราการใช้พื้นที่ร้านอาหารแน่นเฉลี่ย 80% มองผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้โตเด่น ชูขายผ่านออนไลน์ดันรายได้พุ่ง 15-20% เตรียมคลอดเมนูใหม่ ขยายสาขา เพิ่มเฟรนไซส์ รวมถึงควบรวมกิจการ ตามแผน

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2563 มองว่าได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยมองว่ายอดขายในไตรมาสที่ 3 นี้จะเติบโตที่ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า จากการปลดล็อกดาวน์ของทางภาครัฐที่ทำให้ร้านอาหารในศูนย์การค้าสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้แล้วทั้งหมด ทำให้บริษัทสามารถดำเนินกิจกรรมการค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสาขาร้านอาหารในเครือ ZEN ส่วนใหญ่มากกว่า 95% ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า

ทั้งนี้ ในปัจจุบันร้านอาหารในเครือ ZEN มีอัตราการใช้พื้นที่ (Utilization rate) รวมกว่า 80% ส่วนที่เหลือจะเป็นการจัดสรรพื้นที่เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ภายในร้านอาหารทำให้ไม่สามารถใช้พื้นที่ภายในร้านอาหารได้ครบ 100% เช่นเดิม ขณะเดียวกันภายหลังจากที่มีการคลายล็อกดาวน์ทำให้กลุ่มลูกค้ามีการกลับมาใช้บริการร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มองว่ายอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ในช่วงครึ่งหลังปี 2563 จะพลิกเป็นบวกและมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง

*ยอดขายอนไลน์พุ่ง15-20%

โดยแม้ว่ายอดขายในช่วงครึ่งหลังปีจะมีการเติบโตที่ดีมากกว่าครึ่งปีแรก แต่ยังไม่สามารถประเมินเป้าหมายผลการดำเนินงานในปี 2563 ได้ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังคงมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ดี เบื้องต้นคาดว่าผลงานในปีนี้อาจทรงตัวได้ใกล้เคียงปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,144.17 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 106.22 ล้านบาท

ประกอบกับจากการปรับรูปแบบการให้บริการมาเป็นฟู้ดเดลิเวอร์รี่ และ Grab and Go ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทานอาหารให้กับลูกค้า ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในช่วงไตรมาส 1/2563 และไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยรายได้จากช่องทางออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทได้อย่างมาก ทำให้บริษัทประเมินว่ารายได้จากการขายออนไลน์จะเพิ่มขึ้นกว่า 15-20% จากปีก่อนที่ราว 5% ของรายได้รวม

*เปิดตัวเมนูใหม่-ขยายสาขา

พร้อมกันนี้ ในช่วงครึ่งหลังปี 2563 บริษัทยังมีแผนเตรียมเปิดตัวเมนูอาหารใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนที่ผ่านมา ขณะที่การขยายสาขาใหม่และเพิ่มแฟรนไชส์ในปี 2563 นั้น ยังคงเป็นไปตามแผนไว้ ส่วนการลงทุนควบรวมกิจการ (M&A) นั้น ยังคงอยู่ในแผน แต่การลงทุนอาจต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เบื้องต้นหากว่าไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามากดดันก็คาดว่าอาจเห็นการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักได้ภายในปี 2564 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่ายังคงต้องให้การจับตารอดูสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงอยู่สูงและเป็นปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้ รวมถึงรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ จากทางภาครัฐว่าจะสามารถกระตุ้นเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศพอสมควร ทั้งนี้ แต่จากการปรับกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ใหม่ รวมถึงการควบคุมต้นทุนการบริหาร การต่อรองค่าพื้นที่เช่า ทำให้มองว่าในปีนี้บริษัทจะยังคงมีกำไร