> เป้าลงทุน หุ้นคาร์บอนต่ำ > COM7

12 กรกฎาคม 2020 เวลา 14:15 น.

COM7 ทำ All Time High แล้วมีโอกาสไปต่อหรือไม่?

ปี 63 ถือเป็นปีที่ยากมากสำหรับการหาหุ้นลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่เล่นในฝั่งขาซื้ออย่างเดียว เพราะตลาดมีความผันผวนมาก และมีประเด็นลบเข้ามาตลอดเวลา ทั้งการระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมากว่า 6 เดือนแล้วก็ยังไม่จบ ไหนจะตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดว่าจะแย่ลงในทุกมิติทั้งการจ้างงาน, ตัวเลข GDP และภาพรวมการท่องเที่ยว เมื่อวิเคราะห์ในแต่ละจุดจะพบว่ามีแต่ข่าวลบทั้งนั้น


แต่ทั้งหมดนั้น กลับทำอะไรหุ้นค้าปลีกตัวนึงไม่ได้ เพราะเขามีลักษณะเฉพาะตัวด้วยความเป็นสินค้า IT อย่างหุ้น COM7 หรือบมจ.คอมเซเว่น ที่ในช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ค. 63) ก็ทำ All Time High อีกครั้งที่ราคา 34 บาท หลังจากอยู่ในตลาดหุ้นไทยมากตั้งแต่ปี 2558 และเข้ามาในตลาดด้วยราคา IPO เพียง 3.35 บาท นับเป็นหุ้น 10 เด้งในเวลาเพียง 5 ปี


คำถามคือ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ COM7 เติบโตได้ขนาดนี้?เรามีปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น COM7 ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1. ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 5 ปีต่อเนื่องหากวิเคราะห์งบการเงินย้อนหลัง 5 ปีของ COM7 จะพบว่า

1.1) ยอดขาย (Sales)เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 20%

1.2) กำไรสุทธิ (Net Profit)เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยราว 40% ทำให้อัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

1.3) การเพิ่มขึ้นพร้อมๆกันของยอดขายและกำไรสุทธิ ทำให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)เติบโตต่อเนื่อง จาก 1.79% ในปี 2558 สู่ระดับ 3.64% ในปี 2562

1.4) อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE)เติบโตจากระดับ 23.48% ในปี 2558 สู่ระดับ 39.59% ในปี 2562 บ่งบอกถึงการประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีมาก

1.5) หนี้สินต่อทุน (Debt to Equity)อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทมีความเสี่ยงจากการลงทุนไม่มาก


โดยสรุปคือ ตัวเลขงบการเงินของ COM7 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีและน่าลงทุนมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสะท้อนการเติบโตของ COM7 ไปด้วย


2. การเติบโตของเทคโนโลยี เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตของ COM7 โดยเฉพาะสินค้าที่ถือเป็นแบรนด์สำคัญของ COM7 นั่นคือ iPhone หากเรียงลำดับการออกจำหน่าย iPhone ขนานไปกับการเข้าตลาดของหุ้น COM7 ในปี 2558 จะเริ่มที่ iPhone 6S และ 6S Plus จนถึงปี 2562 ที่มีการวางจำหน่ายตระกูล iPhone 11 จะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันมากมาย เพื่อให้ผู้ใช้มีความสะดวกมากขึ้นในการใช้งาน


พัฒนาการของเทคโนโลยีนี่เอง ที่ทำให้ผู้ใช้มีแรงจูงใจและความต้องการใช้งานยิ่งมีฟังก์ชันที่แปลกใหม่มากเท่าไร ก็ยิ่งกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายให้กับ COM7 ตามมา จากตัวอย่างข้างต้นที่เรานับเฉพาะ Timeline ของ iPhone เท่านั้น ยังไม่นับรวมแบรนด์อื่นๆที่ COM7 เป็นตัวแทนจำหน่ายด้วยไม่ว่าจะเป็น Samsung, Huawei และแบรนด์อื่นๆ


สรุปว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้น COM7 เติบโตต่อเนื่อง 5 ปีติดก็มาจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับการเติบโตของเทคโนโลยีนั่นเอง...คำถามต่อไป ราคาหุ้น COM7 จะไปต่อหรือไม่?มาวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่ออนาคตของ COM7 กันดูว่ามีอะไรบ้าง?


1. การเติบโตของเทคโนโลยีจะมีอยู่เสมอซึ่งจะทำให้เกิดฟังก์ชันใหม่ทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (PC) และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะนำไปสู่ยอดขายของ COM7 ในอนาคต ตราบใดที่โทรศัพท์มือถือยังเป็นปัจจัยสำคัญของผู้บริโภค COM7 ก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้ต่อไป


2. นโยบายเงินปันผลในอัตรา 40% ของกำไรสุทธิ ถือว่าไม่สูงมากทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดจากกำไรสุทธิจำนวนมากที่จะนำไปขยายกิจการ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายปันผลเพิ่มขึ้น COM7 ก็มีแนวโน้มที่จะขยายกิจการได้อีก


3. คู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน ในมุมมองของเรา หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง JMART และ SPVI ถือว่ามีขนาดเล็กกว่า COM7 เมื่อเทียบกันด้วย Market Cap. ณ จุดนี้ยังถือว่า COM7 ได้เปรียบในแง่การลงทุนมากกว่า เพราะบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่าย่อมมีความมั่นคง และมีการดำเนินงานที่ดีกว่า แต่ถ้าจะวัดขนาดกับคู่แข่งอย่าง PowerBuy ของ CRC ก็ต้องยอมรับว่าทางนั้นดูดีกว่า COM7


4. ความเสี่ยงที่สำคัญของ COM7 มี2 ข้อ ได้แก่ 1) ความเสี่ยงจากการที่สินค้าค้างสต๊อกเป็นเวลานานเกินไป จะทำให้ COM7 มีต้นทุนการบริหารเพิ่มขึ้น 2) ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ถือเป็นความเสี่ยงระยะสั้น ซึ่งมีผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมีความผันผวน เนื่องจากช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อน ต้นทุนของ COM7 จะมีแนวโน้มสูงขึ้น ในทางตรงข้าม ถ้าเป็นช่วงที่ค่าเงินบาทแข็ง ต้นทุนของ COM7 จะมีแนวโน้มลดลง


สรุป ปัจจัยสำคัญที่ชี้ชะตา COM7 ในอนาคตก็ยังอยู่ที่การเติบโตของเทคโนโลยีส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับการบริหารกิจการของ COM7 ว่าจะสามารถทำกำไรสุทธิต่อเนื่องได้อีกหรือไม่ จะรักษา Market Share ของตัวเองได้ดีแค่ไหนในระยะยาว


สำหรับท่านที่เป็นสาวก COM7 หากท่านถือหุ้นอยู่และกังวลว่าราคาหุ้นขึ้นสูงเกินไป จนอาจทำให้เกิดการกลับตัวลง ท่านสามารถใช้ Single Stock Futures เพื่อบริหารความเสี่ยงพอร์ทลงทุนได้ด้วยการวางเงินหลักประกันเพียง 10-20% ของมูลค่าที่ท่านถือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งนะครับ


ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X