ตลาดหุ้นไทยการซื้อขาย ยังสลับหมุนเปลี่ยนตัวเล่นเก็งกำไรกันไป แต่ภาพรวมของตลาดถือว่ายังแข็งแรง เห็นแรงซื้อพยายามจะดันขึ้นไปทดสอบ 1400 จุดให้ได้อีกครั้ง ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนภายนอกที่กลับมาคึกคัก นำโดยตลาดหุ้นจีนที่ นักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจจีนกำลังจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วๆนี้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่คาดกันว่าจะมีออกมาเพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ยังเป็นปัจจัยฉุดรั้งให้ตลาดขับเคลื่อนได้ไม่เต็มที่นัก รวมถึงความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ที่คาดว่าจะย่ำแย่ โดยเฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 ที่กำลังจะประกาศกันออกมา

กลุ่มแบงก์ จะเป็นกลุ่มแรก ซึ่งตามที่คาดผลงานน่าจะยังออกมาไม่สู้ดีนัก จากแนวโน้มรายได้ที่ลดลง จากส่วนต่างดอกเบี้ยที่แคบลง รวมถึงหนี้ NPL ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แม้ช่วงนี้จะมีมาตรการพักชำระหนี้จากภาครัฐมาช่วย แต่ที่ประเมินกัน แบงก์เองน่าจะเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ด้วยการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น เนื่องจากคากว่าหลังหมดมาตรการนี้ จำนวน NPL จะพุ่งสูงขึ้นอีกมาก

ยังร้อนแรงต่อเนื่องสำหรับหุ้นน้องใหม่อย่าง STGT ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง ที่ราคาหุ้นติดลมบนไปแล้วนับจากเข้ามาเทรดได้ไม่กี่วัน และเป็นหุ้น ไอพีโอ ตัวแรกหลังวิกฤตโควิด-19 อีกด้วย หากใครที่ได้หุ้นจอง STGT มาถึงตอนนี้คงมีกำไรยิ้มกันหน้าบานไม่หุบล่ะครับ เพราะส่วนต่างจากราคาไอพีโอที่ 34 บาท วันนี้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปกว่า 100%  เป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนพากันเข้าพัวพันกับหุ้นตัวนี้ ด้วยวอลุ่มการซื้อขายที่ถล่มทลาย

นับได้ว่า STGT เข้ามาช่วยกู้วิกฤตหุ้นไอพีโอ ในช่วงหลังนี้ได้ดีทีเดียวแต่ด้วยความร้อนแรงของหุ้น และความคาดหวังของผลประกอบการในอนาคตที่นักลงทุนคาดหวังไว้สูง จนค่าพีอีพุ่งไปแล้ว 100 กว่าเท่า ก็ต้องลุ้นกันต่อครับว่าผลงานในอนาคตจะมาได้อย่างที่คาดหวังไว้สูงลิบได้หรือไม่

หุ้นอีกตัวที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน BWG จากประเด็นข่าวการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ให้กับกลุ่มนักลงทุน 5 ราย จำนวน 319 ล้านหุ้น ที่ราคา 0.51 บาทต่อหุ้น ก็เป็นแรงผลักดัน สร้างความสนใจในหุ้นตัวนี้อย่างคึกคัก ที่ผ่านมาหุ้น BWG อาจจะเงียบเหงา จากราคาหุ้นที่ตกต่ำลงมาอย่างมาก ด้วยผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยจะดูดีนัก

แต่ในแง่พื้นฐานหุ้นตัวนี้ยังดูดีใช้ได้ ธุรกิจรับกำจัดขยะอุตสาหกรรมแบบครบวงจรยังเติบโต แต่ด้วยภาวะโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ ธุรกิจจะฟื้นตัวกลับมาได้ อีกทั้งล่าสุด กำลังจะนำบริษัทลูก ETC ที่ทำโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากขยะอุตสาหกรรม ที่มีการขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เร็วๆนี้ รวมกับการได้เงินทุนเพิ่มจากการขาย PP รอบนี้ จะช่วงเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เพิ่มขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นโอกาสของหุ้นตัวเล็ก ๆที่มีการเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก หลายตัวราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดซิลลิ่งติดต่อกันหลายวัน หลายคนที่ติดหุ้นสูงได้ลุ้นหลุดดอย หลายคนก็ทำกำไรกันอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ทั้งนี้ ยังคงย้ำเช่นเดิม การเข้าไปร่วมพัวพันเก็งกำไรต้องพิจารณาในแง่ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นที่มีรองรับ ไม่ใช่หุ้นปั่น หุ้นสร้าง รวมถึงไม่เล่นด้วยความคาดหวังบนจินตนาการ วาดฝันสวยหรูเกินจริง และไม่โลภเกินความสามารถของตนเองที่จะทำได้ พร้อมที่จะถอยหากผิดทิศผิดทาง ทำกำไรเมื่อถึงเป้าหมาย อย่าปล่อยให้กำไรกลายเป็นขาดทุนเด็ดขาดโชคดีครับ