ทันหุ้น - III พ้นจุดต่ำสุด พร้อมเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศ หลังมองว่าสัดส่วนยังน้อยเกินไป ขระที่ตลาดในประเทศมีศักยภาพเติบโตสูง มองการเติบโตภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ยังมีโอกาสแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่เน้นประคองรายได้ให้โตใกล้เคียงปีก่อน พร้อมเดินหน้าลดต้นทุนธุรกิจ

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแม้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ ทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจนำเข้าส่งออกทางทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ แต่บริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจต่อเนื่อง โดยได้จัดทำแผนธุรกิจใหม่ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

แผนธุรกิจใหม่ มีระยะเวลาราว 2 ปีครึ่ง หรือไปจนถึงปี 2565 เพื่อให้บริษัทสามารถพัฒนาธุรกิจได้ต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นขยายงานไปยังนิวแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต  ซึ่งตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการด้านโลจิสติกส์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่จะเกิดขึ้นภายหลังวิกฤตโรคระบาด

ทั้งนี้ คาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์โลจิสติกส์ในช่วงไตรมาสที่3/2563 โดยเป็นการร่วมทุน (JV) กับพันธมิตรรายใหม่ นอกจากนี้ เตรียมขยายเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะการขยายตลาดในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ของการขนส่งในประเทศค่อนข้างน้อย โดยมองว่าตลาดในประเทศยังมีการเติบโตอีกมากในอนาคต

ผ่านจุดต่ำสุด

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้ บริษัทมองว่าช่องทางการขนส่งทางอากาได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ในช่วงไตรมาสที่ 2/2563 และตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2563 คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับการให้บริการเป็นแบบเช่าเหมาลำเครื่องบิน (charter flight) เพื่อขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าหลัก เช่น เซี่ยงไฮ้ และ ญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งจะมีรายได้จากการเช่าเหมาลำจะเข้ามาต่อเนื่องเช่นเดียวกัน สนับสนุนผลประกอบการภาพรวมให้ดีขึ้น

“ส่วนการขนส่งทางเรือ ปัจจุบันบริษัทเน้นไปยังตลาดเอเชีย ซึ่งจะต้องจับตาดูการเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง และมองว่าดีมานด์ปัจจุบันยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนเกิดโควิด-19”

นายทิพย์ กล่าวว่า ขณะที่รายได้ปีนี้บริษัทจะพยายามประคองให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 2,712.5 ล้านบาท และยังคงให้ความสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 เป้นผลกระทบที่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นต้องยอมรับว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจบ้าง ดังนั้นการจะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาคงเกิดขึ้นได้ยาก อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะเริ่มกลับมาเติบโตได้อย่างเต็มอีกครั้งที่ในปี 2564

บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด ให้มุมมอง ต่อ III ว่า บทพิสูจน์ที่แท้จริง ของ บริษัทคือช่วงไตรมาส 2/2563 เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินของสายการบิน AirAsia ที่หายไปราว 90% ส่งผลให้รายได้ในธุรกิจ Air Freight มีโอกาสที่จะยังคงลดลงอย่างรุนแรง โดยยังเชื่อว่าในไตรมาส2/2563 บริษัทจะมีโอกาสขาดทุน แต่จะขาดทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถปรับโครงสร้างต้นทุนของธุรกิจ Air Freight ได้อย่างน่าประทับใจ โดยอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนโครงสร้างดังกล่าว ทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานลดลงน้อยกว่าที่คาดเป็นอย่างมาก