> SET >

07 กรกฎาคม 2020 เวลา 09:06 น.

โบรกฯ คาด SET ปัจจัยภายนอกหนุนขึ้นทดสอบ 1,380-1,400 จุด

ทันหุ้น-สู้โควิด : โบรกเกอร์คาดตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวขึ้น ผ่าน 1380 จุด ยืนยันรอบขึ้นอีกครั้ง แต่คงต้องระวังการขายทำกำไรช่วงสั้น จึงยังคงเน้น Trading ชู SPRC-TKN-BGRIM เด่น


**บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ชี้ SET Index  ปิดที่ระดับ 1372.27 จุด (-1.86 จุด) เรายังรอการยืนยันรอบการขึ้นใหม่อีกครั้ง หากดัชนีสามารถขึ้นผ่านระดับแนวต้านสำคัญบริเวณ 1380 จุดได้ หากยังไม่ผ่านระดับดังกล่าว จะเป็นการย่อตัวสะสมกำลังเพื่อรอขึ้นทดสอบใหม่อีกครั้ง


กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ทยอยทำกำไรบางส่วน หากทะลุแนวต้าน 1380 จุดได้ ให้สะสมเพิ่มแล้วถือรันเทรน

ไม่มีหุ้น  รอ Follow buy ตาม กรณีดัชนีสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1380 จุด หรือ รอซื้อที่บริเวณแนวรับ 1365 จุด ในกรณีย่อตัว ประเมินแนวรับ 1365/1350  แนวต้าน 1380/1400


**บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ส่องแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ มีมุมมองเป็นบวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,385 - 1,400 จุด ตามความคาดหวังภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐ จีน และยูโรโซน จะฟื้นตัวขึ้นเป็น V shape หลังผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ซึ่งสะท้อนได้จากตัวเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นชัดเจน โดยดัชนีภาคบริการของสหรัฐเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ยอดค้าปลีกของยูโรโซนเดือนพ.ค. +17.8% MoM รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 58.4 เป็นแรงหนุนต่อทิศทางการลงทุน 


อย่างไรก็ตามควรความผันผวนในระหว่างวันหลังยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องราว 5 หมื่นราย/วัน ส่งผลให้บางรัฐต้องระงับแผนการผ่อนคลายล็อกดาวน์ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง 


กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy 

- กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IRPC, SPRC, IVL) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น 

- กลุ่มเดินเรือ (PSL, TTA, RCL, AMA, PRM) อานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 

- MINT, CENTEL, ERW, AOT, AAV อานิสงส์ครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ 

- กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น (TOP, PTTGC, SPRC, BGRIM, CKP, TASCO, STA, SPALI) 


หุ้นแนะนำวันนี้

SPRC (ปิด 7.1 ซื้อ/เป้า 8 บาท) คาดผลประกอบการ 2Q20 พลิกมีกำไรสุทธิ 3.5 พันล้านบาท เทียบกับที่ขาดทุนสุทธิ 8.3 พันล้านบาทใน 1Q10 จาก 1) คาดค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 4$/bbl จาก 1.3$/bbl ใน 1Q20 จากการลดการผลิตน้ำมันอากาศยานที่มาร์จิ้นต่ำและผลิตน้ำมันเบนซีนและดีเซลทดแทน และ 2) คาดมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบประมาณ 4.2 พันล้านบาทหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นจากระดับ 20$/bbl ใน 1Q20 เป็น 40$/bbl ใน 2Q20 


TKN (ปิด 10.70 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 12) แนวโน้มผลกำไรจะทยอยฟื้นตัว qoq ยอดขายในจีนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา การจับมือ Orion ซึ่งเป็น Distributor รายใหญ่ในจีน ประกอบกับกิจกรรมเศรษฐกิจของจีน (PMI การผลิตและบริการ) ที่ฟื้นตัวจะหนุนยอดขายในจีนเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 


บทวิเคราะห์วันนี้ 

AOT (60.25 ถือ/เป้า 60), TU  (13.1 ซื้อ/เป้า 15.3) 


ประเด็นสำคัญวันนี้ 

(+) ตลาดหุ้นทั่วโลกบวกแรง นักลงทุนมองข้ามการระบาดของไวรัส Covid-19 และมีความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตั : วานนี้ตลาดหุ้นบ้านเราปิดทำการเนื่องในวันหยุดชดเชยวันอาสาฬหบูชา แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังเปิดทำการปกติและส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเชี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนเพิ่มขึ้น 5.7%, ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น 1.5-2% และ ตลาดหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 460 จุด หรือ 1.78% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากที่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก (จีน ยุโรป และสหรัฐ) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน มิ.ย.ออกมาดี 


โดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของจีนและสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50 สะท้อนการผลิตและการบริการของจีนและสหรัฐกลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดหวังว่ารัฐบาลและธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกจะขยายเวลามาตรการเยียวยาผลกระทบจากวิกฤติ Covid-19 ออกไป และเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพิ่มเติม  


(+/-) Preview งบ 2Q20 ภาพรวม (YoY) ยังไม่ดี แต่ตลาดรับรู้ไปแล้ว: จากการคาดการณ์ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนของ Bloomberg consensus ใน 2Q20 เบื้องต้น (62 บริษัท) คาดมีกำไรสุทธิรวม 4.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 117%qoq แต่หดตัว 57%yoy กำไรที่กลับมาฟื้นตัว QoQ หลักๆมาจากการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มวัฏจักร คือ น้ำมัน โรงกลั่น (PTT, TOP, IRPC), ปิโตรเคมี (PTTGC) และอาหาร (CPF )ซึ่งไตรมาสนี้คาดว่าจะพลิกมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบจำนวนมากเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งขาดทุนจากรายการดังกล่าว 


อย่างไรก็ตามกลุ่มอื่นๆกำไรยังมีแนวโน้มชะลอตัวโดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติ Covid-19 โดยเฉพาะจากมาตรการ lockdown อาทิ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และกลุ่มที่ได้รับ side effect อาทิ  ธนาคาร , สื่อสาร, ค้าปลีก, อสังหาฯ และ โรงพยาบาล อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดรับรู้ปัจจัยนี้ไปแล้ว และคาดว่า downside จากการลดคาดการณ์ EPS ของตลาดในปีนี้จะเริ่มจำกัด (1H20 Consensus ลดคาดการณ์ EPS ของตลาดลงต่อเนื่อง โดยลดคาดการณ์ปีนี้และปีหน้าลงประมาณ 32% และ 21% ตามลำดับ)


(+/-) สัปดาห์นี้ติดตาม ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ ช็อบช่วยชาติ และการท่องเที่ยว: สัปดาห์ที่ผ่านมา นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มีคำสั่งให้กระทรวงการคลังและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อและการท่องเที่ยวในประเทศ เพิ่มเติม เราคาดว่ามาตรการต่างๆน่าจะเริ่มเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ อาทิ โครงการช็อปช่วยชาติ และ การท่องเที่ยวในประเทศ โดยครั้งนี้คาดว่าจะเป็นมาตรการที่เน้นกระตุ้นให้กลุ่มผู้มีกำลังซื้อออกมาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น หากทั้ง 2 มาตรการได้รับความเห็นชอบจาก ครม. จะส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค้าปลีก (CPALL, CRC, COM7, JMART) และ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, ERW, MINT) 


**บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินดัชนี แกว่งในกรอบ 1343-1390 จุด ตลาดกำลังเลือกทางเดินหลังเดินหน้าขึ้นมากว่า 3% การติดเชื้อ Covid-19 ของสหรัฐฯ ถ่วงตลาด แต่ตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวช่วยหนุนตลาดการซื้อขายสัปดาห์นี้ มีแนวโน้ม sideway-up  กลยุทธ์ เน้น trading ช่วงสั้น หรือทยอยเก็บหุ้นราคาลงมามาก


ตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทั่วโลกรวมกันแตะ 11 ล้านคน ผู้ติดเชื้อของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ่วงตลาดหุ้นไม่ให้ขึ้นได้แรง แต่ภาพรวมยังดีติดต่อกันสองสัปดาห์ (Bloomberg World Index +3.0% สัปดาห์ที่ผ่านมา)  รายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีน-สหรัฐฯ ทั้ง PMI และตัวเลขจ้างงาน เดือน พ.ค.ดีขึ้น (คาด มิ.ย.จะดีกว่า พ.ค.) แม้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกจะขึ้นมา จึงอาจมีการขายทำกำไรเป็นระยะๆ แต่เราคาดนักลงทุนจะยังมองว่าสถานการณ์กำลังดีขึ้น เม็ดเงินกลับเข้ามาเก็งกำไรในตลาดเอเซีย สัปดาห์นี้ดัชนีฯจึงน่าบวกต่อไปได้


ทิศทางราคาน้ำมัน ยังคงสอดคล้องกับสถานการณ์ Covid-19 เป็นบวกต่อตลาดหุ้นและหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี (PTT, PTTEP, PTTTGC, IVL, SCC)  …. หุ้นกลุ่มธนาคาร จะทยอยรายงานกำไรสัปดาห์หน้า กำไร 2Q ไม่สดใสนัก กำไรธนาคาร 8 แห่ง (ไม่รวม CIMBT, BAY) อยู่ที่ 3.03 หมื่นลบ. -32% YoY ; -20.0% QoQ


ติดตามรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ เราคาดทีมเศรษฐกิจน่าจะทยอยออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย-ลงทุน จับตา 10 มิ.ย. ประชุมทีมเศรษฐกิจร่วมกับนายกฯ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสัปดาห์ ตัวเลขเคลมการว่างงานสหรัฐฯ(9)


#Strategy

เรามองตลาดมีแนวโน้มบวกต่อ การปรับฐานน่าจะจบไปแล้ว แต่คงต้องระวังการขายทำกำไรช่วงสั้นบ้าง จึงยังคงเน้น Trading ช่วงสั้น หรือทยอยเก็บหุ้นราคาลงมามาก


หุ้นแนะนำในพอร์ต เรานำ AAV, CK, AOT ออก และเพิ่ม JMT, PTG, BGIM  เข้ามาแทน  หุ้นในพอร์ตหลัก   BCH(10%) , IVL (20%), KCE (10%), PTG (10%), JMT (20%)  ส่วนพอร์ต KTBST SET50 (Skynet)  %: WHA (20%), CRC(20%), ADVANC(20%), BGRIM (20%)


#Strategy top picks

BGRIM  (เป้าเชิงกลยุทธ์ 60 บาท)  –  การใช้ไฟฟ้ากลับมาเพิ่มขึ้น และมีแผนลงทุนต่อเนื่อง คาดเมื่อผ่านสถานการณ์ covid-19 ไปแล้ว และการผลิตของลูกค้าทยอยกลับมา หรือภาคธุรกิจใช้ไฟฟ้ากันมากขึ้น จะหนุนให้รายได้จากการขายไฟฟ้ามากขึ้น ทั้งลูกค้าอุตสาหกรรมและ EGAT


BGRIM เซ็นสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ผุด โรงไฟฟ้าไฮบริดโครงการอู่ตะเภาเฟส 1 กำลังการผลิต 95 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน 3.8 พันล้านบาท 


BGRIM สนใจลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน  ด้วยทั้งในรูปแบบโครงการ Quick Win และโครงการทั่วไป


#Technical : ESSO, PSL


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X