ทันหุ้น – สู้โควิด - SPA ยิ้มรับยอดผู้เข้าใช้บริการสปาตั้งแต่เดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังปลดล็อก ฟากบิ๊กบอส “วิบูลย์ อุตสาหจิต” เผยปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 60-70% เชื่อเปิดน่านฟ้านักท่องเที่ยวไหลเข้าไทย ชี้หากครึ่งปีหลังเข้าสู่ภาวะปกติ คาดผลงานไตรมาส 4/63 ฟื้น ฟากโบรกเพิ่มน้ำหนักเป็น ซื้อเก็งกำไร” เคาะราคาเหมาะสมปีนี้ 7.80 บาท

นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA เปิดเผยว่า แนวโน้มการให้บริการในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จำนวนผู้เข้าใช้บริการและรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดต่อจากนี้ทิศทางจำนวนผู้เข้าใช้บริการ รวมถึงรายได้จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย และมีการปลดล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ไปแล้ว

นักท่องเที่ยวจ่อเข้า

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนสำหรับการเปิดน่านฟ้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศ ขณะเดียวกันทางผู้ประกอบการนำเที่ยว หรือไกด์จากประเทศจีน เริ่มสอบถามทางการท่องเที่ยวแห่ประเทศไทน ถึงกฎเกณฑ์ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ หากมีความชัดเจน บริษัทคาดจะส่งผลเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเปิดให้บริการสปาของบริษัทอีกด้วย

สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังปี 2563 บริษัทคาดจะมีทิศทางที่ดี หลังจากปลดล็อกประเทศ และหากสถานการณ์กลับมาปกติ คาดในไตรมาส 4/2563 ผลประกอบการจะกลับมาสู่ระดับปกติได้ สำหรับการให้บริการปัจจุบันบริษัทสามารถเปิดสาขาให้บริการได้แล้ว 60-70% ส่วนที่เหลือเป็นสปา หรือสาขาที่อยู่ในพื้นที่โรงแรม และบางโรงแรมยังไม่เปิดให้บริการ หรือซัพพอร์ตธุรกิจในพื้นที่ ทำให้บริษัทยังคงต้องรอความชัดเจนจากโรงแรมก่อน

คนไทยใช้บริการเพียบ

ทั้งนี้คาดทิศทางสัดส่วนรายได้จากการเข้าใช้บริการของคนไทยปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการใช้บริการชาวต่างชาติเมื่อปีก่อนที่ 75% และคนไทย 25% ทั้งนี้ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 จำนวนผู้เข้าใช้บริการของคนไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 45% หากบริษัทสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งคาดการจองสปาจากกลุ่มลูกค้าคนไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 90% ส่วนอีก 10% จะเป็นลูกค้าต่างชาติที่ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางเป้าหมายรายได้ปีนี้ บริษัทจะทบทวนเป้าหมายการเติบโต จากเดิมตั้งเป้าโต 20% จากปีก่อนที่ 1.4 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2563 อย่างไรก็ดีบริษัทคาดการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างช้าๆ คาดจะเห็นชัดเจนในไตรมาส 4/2563 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันธุรกิจของสปาจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน อนึ่งไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 243.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.35 ล้านบาท

โบรกเพิ่มน้ำหนัก

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SPA ว่า มีมุมมองเชิง “บวก” ต่อการกลับมาให้บริการที่ดีเยี่ยมเหนือมาตรฐานของ SPA มองว่า SPA เจอจุดต่ำสุดในการทำธุรกิจทันทีในไตรมาส 2/2563 และต่อไปคือการฟื้นตัว ซึ่งหากมองข้ามไปปี 2564 แล้วอิงกับ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 33.7เท่า ราคาเหมาะสมปีหน้า (2564) สามารถลุ้นได้ไกลระดับ 14 บาท บนเงื่อนไขว่า COVID-19 จะต้องไม่รบกวนบริษัทในปีหน้า จึงเพิ่มน้ำหนักเป็น “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสมปีนี้ 7.80บาท/หุ้น