> SET > CK

07 กรกฎาคม 2020 เวลา 07:45 น.

เปิดฉากซื้อซองสีส้ม แม่ทัพCKล็อคเป้าลุย

ทันหุ้น – สู้โควิด – ได้ฤกษ์ซื้อซองชิงรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รฟม.เปิดขายซองเริ่มศุกร์นี้ CK Group ประกาศพร้อมคว้า ชี้เชี่ยวชาญงานใต้ดิน โอกาสสูง ชี้งานพุ่งชนต่อเนื่องทั้งสายสีม่วงใต้ เขื่อนลาว ดันแบ็คล็อคทะลุแสนล้านบาทปีนี้ ลั่นฐานะการเงินแกร่ง D/E ratio เพียง 1.2 เท่า ย้ำศักยภาพแกร่งไม่ต้องเพิ่มทุน


จากกรณีที่ รฟม. เชิญชวนร่วมคัดเลือกเป็นผู้ร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ซื้อซอง 10-24 กรกฎาคมนี้


ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ระบุว่า CK Group คาดหวังการประมูล 3 โครงการใหญ่ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วง เตาปูน–ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร, รถไฟทางคู่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่าโครงการประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาเติม Backlogให้กลับสู่ระดับแสนล้านได้ภายในสิ้นปี 2563


“กลุ่ม CKคาดหวังรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่างานโยธาประมาณ 9 หมื่นล้านบาท และม่วงใต้ซึ่งมีมูลค่างานโยธาประมาณ 8 หมื่นล้านบาท เพราะ ณ ปัจจุบันเราได้รับผิดชอบงานส่วนแรกอยู่ ประกอบกับ CKมีความชำนาญงานใต้ดินซึ่งมีความท้าทายค่อนข้างมาก วิศวกรเรามีประสบการณ์ที่จะรับมือกับความท้าทายหน้างานเหล่านั้น อีกทั้งเรายังมีเทคโนโยลีที่มั่นใจว่าทำได้ดี ทั้งงานก่อสร้าง งานเดินรถและพัฒนาระบบ”


นอกจากนี้ยังมั่นใจช่วงครึ่งหลังของปี 2563 รัฐบาลจะทยอยประมูลโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่หลายโครงการ เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้แสดงความมั่นใจว่า การดำเนินงานในรูปแบบ “การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน” (Public-Private Partnerships : PPPs) เป็นแนวทางที่ดังจุดแข็งของทั้งภาครัฐ และเอกชนมาร่วมกันพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด


รุก CLMV เต็มสูบ


ดร.สุภามาส ระบุ CK Groupมั่นใจว่าการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการสาธารณูปโภคทั้งระบบขนส่งสาธารณะ, ไฟฟ้า, น้ำประปา เป็นการลงทุนที่มีความมั่นคงในระยะยาว เนื่องจากมีศักยภาพที่จะขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจและจำนวนประชากรโดยรวม ซึ่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ทั้งเมียนมา, สปป.ลาว, เวียดนาม, และกัมพูชา ยังมีศักยภาพในการพัฒนาระบบสาธรณูปโภคเหล่านี้อย่างต่อเนื่องในอนาคต


โดย ณ ปัจจุบันบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPอยู่ระหว่างรอความชัดเจนโครงการก่อสร้างเขื่อนแห่งใหม่ในสปป.ลาว ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับโครงการไซยะบุรี มูลค่างานก่อสร้างประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ส่วน CKเองก็อยู่ระหว่างรอทางรัฐบาลเมียนมาพิจารณาร่างสัญญาจัดซื้อ-จัดจ้าง (TOR) โครงการทางด่วน Yangon Elevated  ซึ่งทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2563 เช่นกัน


ดร.สุภามาส ย้ำว่า ปัจจุบัน CK Groupมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทในเครือทุกบริษัทมีศักยภาพในการระดมทุนเพื่อดำเนินโครงการขนาดใหญ่ได้เอง โดยไม่ต้องให้ CK เป็นผู้ค้ำประกัน ดังนั้นสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) จึงทรงตัวในระดับ 1.1-1.2 เท่า สามารถระดมทุน รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนเพื่อดำเนินโครงการขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด


BEM ใส่2โครงการเกิน 100%


ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ระบุ บริษัทจะเป็นผู้เข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และจ้าง CKเป็นผู้รับผิดชอบงานโยธา ทั้งนี้มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำเพียงพอที่จะให้ผลตอบแทนคืนกับภาครัฐบาลได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ


“เนื่องจาก ณ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทได้ดำเนินโครงการสายสีส้มตะวันออก รวมถึงงานเดินระบบ&ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าMRTอยู่แล้วดังนั้นเราสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถระดมทุนดำเนินงานได้เอง เพราะการกู้เงินนั้นเราใช้เครดิตรัฐบาลเราลงทุนไปก่อนแต่รัฐต้องจ่ายคืนให้เรา ดังนั้นวงเงินส่วนต่างที่เราต้องรับผิดชอบจริงๆ นั้นไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท จึงไม่ต้องเพิ่มทุนอย่างแน่นอน”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X