ทันหุ้น –สู้โควิด –BEM เผยปริมาณผู้โดยสารที่ใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกลับมาประมาณ 60% หรือประมาณ 250,000 เที่ยวคนต่อวัน ฟากโบรกประเมินตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน-ทางด่วน กระทบจำกัด แนวโน้มผู้โดยสารเพิ่มจากการเปิดเทอม คลายล็อกดาวน์ เชียร์ซื้อเป้า 10.70 บาท

ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า บริษัทคงอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT “สายสีน้ำเงิน” ไว้เท่ากับอัตราเดิม คือเริ่มต้น 16 บาท สูงสุด 42 บาท ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 63 จากที่กำหนดให้มีการปรับขึ้นในวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ตามสัญญาสัมปทานของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน จากที่กำหนดให้มีการปรับขึ้นในวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ตามสัญญาสัมปทานของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน

ในส่วนของทางด่วน BEM ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษในทางด่วน 3 สาย “ทางพิเศษเฉลิมมหานคร-ศรีรัช-อุดรรัถยา”ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ 19 วัน ในเดือนกรกฎาคมนี้ใช้ทางด่วนฟรีจำนวน 3 วันได้แก่วันที่ 5 กรกฎาคม เป็นวันอาสาฬหบูชา วันที่ 6 กรกฎาคม วันเข้าพรรษา และวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

*ผู้โดยสารกลับมา 60%

นอกจากนี้ BEM ยังได้ลดค่าผ่านทางพิเศษ ที่ "ด่านอาจณรงค์ 1" จากทางพิเศษฉลองรัช เข้าทางด่วนขั้นที่ 1 ไปบางนา ในอัตรา 25 บาท ต่อเที่ยว สำหรับรถทุกประเภท โดยรถ 4 ล้อ ปกติ 50 บาท ลดเหลือ 25 บาท รถ 6-10 ล้อ ปกติ 75 บาท ลดเหลือ 50 บาท และรถ มากกว่า 10 ล้อ ปกติ 110 บาท ลดเหลือ 85 บาท เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 -30 มิถุนายน 2564

ทั้งนี้ จากนโยบายของรัฐบาลและความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดีทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดลดลงจนเป็นศูนย์ โดยปัจจุบันปริมาณผู้ใช้ทางด่วนกลับมาเกือบจะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยภาพรวมอยู่ที่ล้านสองแสนคันต่อวัน ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกลับมาประมาณ 60% หรือประมาณ 250,000 เที่ยวคนต่อวัน คาดว่าตั้งแต่เปิดเทอมปริมาณผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอีก สถานการณ์น่าจะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญก็คือการร่วมมือกันของประชาชนทุกคนที่ไม่ประมาทการ์ดไม่ตกไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดซ้ำอีก

*ตรึงค่าโดยสารกระทบจำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า มองว่ากรณีที่คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอให้คงอัตราค่าโดยสาร MRT สายสีน้ำเงิน 16-42 บาทถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งสายนี้มีทั้งหมด 38 สถานี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนที่ถูกกระทบจากโควิด-19 และให้ส่วนลดกับเด็กและผู้สูงอายุ มองว่าผลกระทบต่อ BEM มีจำกัด เพราะเป็นระยะสั้น และการให้ส่วนลดกับเด็กและผู้สูงอายุก็มีการให้อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ดังนั้นยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐานที่ 10.70บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้ มองว่าธุรกิจทางด่วนมีการฟื้นตัวดี เพราะคนใช้รถส่วนตัวมากขึ้นในช่วงมีโควิด ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้นหลังผ่อนคลาย Lockdown แต่ก็ยังน้อยกว่าก่อนโควิด-19 พอควร อย่างไรก็ดี ธุรกิจยังไปได้ดีและเติบโตได้ในระยะยาว

*เปิดเทมอดันยอดพุ่ง

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำหุ้น BEM เป็นหุ้นเด่น โดยแนะ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 10.50 บาทต่อหุ้น มองว่าต้อนรับการเปิดเทอมรถไฟฟ้า MRT ผ่อนปรนมาตรการ Social Distancing โดยจะควบคุมความหนาแน่นในขบวนรถไม่เกิน 70% ผ่อนคลายจากเดิมที่กรณีเข้มงวดได้เพียง 25%และชั่วโมงเร่งด่วน 50%โดยคาดจำนวนผู้โดยสารเพิ่มจากปัจจุบัน 2.1 แสนเที่ยวคนตอวัน เป็น 3 แสนเที่ยวคนต่อวันในเดือนกรกฎาคม และน่าจะใช้เวลาอีก 3 เดือนฟื้นสู่ปกติที่ 4 แสนเที่ยวคนต่อวัน

นอกจากนี้ ยังมีลุ้นประมูลรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตกและเดินรถตลอดสาย มูลค่างานกว่า 1.1 แสนล้านบาท เดือนกันยายนนี้ (ขายซอง 10-24 ก.ค.) เพราะมีส่วนของงานใต้ดินเป็นหลัก