ทันหุ้น - J ได้ดีศบค.ขยายเวลาเปิดห้างถึง 4 ทุ่ม หนุนยอด "It junction "-คอมมูนิตี้มอลพุ่ง บิ๊ก "สุพจน์" เคาะเปิดโครงการ “The Jas Village อมตะ” ช่วงสิงหาคมนี้ ขยายฐานรับทรัพย์ แถมเดินหน้าปั๊มยอดขายคอนโด Newera โกยเงินเพิ่ม

นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า จากกรณีที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมานั้นศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 หรือ คลายล็อก เฟส 5 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการเปิดบริการ ห้างสรรพสินค้า เป็นให้บริการได้ถึงเวลา 22.00 น. จากเดิมที่ 21.00 น.และให้มีผลเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา

โดยเรื่องดังกล่าวทางบริษัทมองถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ เพราะปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจให้เช่าพืนที่โครงการศูนย์มือถือครบวงจรภายใต้ชื่อ "IT Junction" ประกอบกับยังมีศูนย์การค้าชุมชนภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนให้ยอดผู้ใช้บริการธุรกิจเหล่านี้ขยายตัวมากขึ้น

เปิดศูนย์อมตะส.ค.นี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันทาง J มีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็นโครงการศูนย์มือถือครบวงจรภายใต้ชื่อ "IT Junction" ซึ่งตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ประมาณ 51 สาขา คิดเป็นตัวเลขอยู่ที่ราว 50%, การบริหารจัดการพื้นที่ศูนย์การค้าชุมชนภายใต้แบรนด์ "เดอะแจส (The Jas) อาทิ JAS URBAN (ศรีนครินทร์), The JAS (วังหิน), The Jas (รามอินทรา) และอื่นๆ ซึ่งคิดเป็นพื้นที่เช่ารวมทั้งหมดราว 3.7 หมื่นตารางเมตร ตลอดจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมเปิดโครงการศูนย์ค้าชุมชนแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “The Jas (อมตะนคร)” ขนาดพื้นที่เช่ามากกว่า 10,000 ตารางเมตร ซึ่งมีมูลค่าโครงการราว 200 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) และถือเป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 4 นั้นขณะนี้งานก่อสร้างถือว่าคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว คาดน่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2563\

เร่งปั๊มยอดคอนโด

นายสุพจน์ กล่าวเสริมว่า ในแง่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการหลัก คือ Newera ซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยความสูง 8 ชั้น จำนวนยูนิตขาย 177 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอสุคนธสวัสดิ์ 38 ถนนสุคนธสวัสดิ์ (อยู่ห่างจากถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย เพียง 200 เมตร) นั้นล่าสุดมีห้องชุดพร้อมโอนที่เหลือขายอยู่ที่กว่า 100 ล้านบาท โดยหลังจากนี้คงจะเร่งทำตลาดเพื่อสร้างรายรับอีกทางหนึ่ง

ส่วนงบการเงินสิ้นไตรมาส 1/2563 ของ J พบว่า มีกำไรสุทธิ 16.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 503,000 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตราว 3,202% โดยในไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการลดลง จากช่วงเดียวกันปีก่อนราว 5.7% เพราะรายได้ค่าเช่าปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทมีการปิดพื้นที่โครงการสาขา IT Junction ที่มีผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจากข้อมูลของบริษัทมีจำนวนสาขา "IT Junction" จำนวน 36 สาขาในไตรมาส 1/2563

นอกจากนี้ยังมีบริษัทมีรายได้อื่นๆ เท่ากับ 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของเงินสนับสนุนทางกำไรตลาด และบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายและโอนคอนโดมิเนียมในโครงการ Newera เพิ่มเติม ส่วนต้นทุนการขายและบริหารในไตรมาส 1/2563 นั้นปรับตัวลดลงราว 60.3% ผลมาจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการรายงานงบเงินฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่าฉบับใหม่เพิ่มเติม

ส่องบุ๊กแวลู่ 1.64 บาท

นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลมูลค่าทางบัญชีของหุ้น บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.64 บาทต่อหุ้น (อิงข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563)