01 กรกฎาคม 2020 เวลา 20:00 น.
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ตลาดหุ้นบ้านเรา และตลาดหุ้นทั่วโลก มีการปรับฐานชัดเจนขึ้นหลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน แม้ภาพรวมเศรษฐกิจอ่อนแอ แต่ภาพรวมการลงทุนกลับปรับตัวดีขึ้นมาก โดยปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจอ่อนแอ มาจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการเงินอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลกช่วยหนุนสภาพคล่อง และการทยอยกลับมาปลด Lockdown ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการ ทั้งนี้ SET Index ได้ฟื้นตัวขึ้นมาแล้วกว่า 50% นับจากจุดต่ำสุดจนถึงจุดสูงสุด หากพิจารณาเฉพาะใน SET 100 พบว่ามีหุ้นราว 17% ปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าระดับก่อนวิกฤติ COVID-19 แล้ว ดังนั้น จึงประเมินได้ว่า SET Index เข้าใกล้จุดเปลี่ยน
โดยตลาดน่าจะให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐาน โครงสร้างธุรกิจ และแนวโน้มหลัง COVID-19มากกว่าการฟื้นตัวระยะสั้นและผลกระทบของฐานตํ่า และมีปัจจัยกดดันหลักจากความกังวลถึงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในระลอก 2 โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาถึงระดับกว่า 4 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำจุดสูงสุดใหม่ เมื่อเทียบกับในช่วงเดือนเม.ย. ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดเข้ามาในสหรัฐฯ โดยผมมองปัจจัยนี้ ยังเป็นปัจจัยกดดันหลักต่อแนวโน้ม SET ในเดือนก.ค. ที่จะทำให้ยังมีความเสี่ยงต่อการปรับตัวลงได้ต่อ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่กดดันตลาดซึ่งได้แก่
1) ยังต้องระวังความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และจีน ที่อาจส่งผลกระทบต่อข้อตกลงทางการค้า
2) SET แม้เริ่มปรับตัวลงมาแล้วกว่า 100 จุด จากจุดสูง 1455 จุด อย่างไรก็ตาม มูลค่าก็ยังตึงตัวอยู่ โดยคิดเป็น forward P/E ที่ 16.8 เท่า ในปี 63 (+1SD ของค่าเฉลี่ย 7 ปี)
3) แนวโน้มผลการดำเนินงานใน Q2/63จะโดนผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะที่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ค่อยๆ ฟื้นตัว ขณะที่กำไรสุทธิในปี 64 จะยังคงตํ่ากว่ากำไรสุทธิในปี 62 (SET Index เฉลี่ย/สิ้นปี 62 อยู่ที่ 1640/1,560 จุด) โดยคาดว่า valuation หุ้นวัฏจักร (cyclical stock) จะถูกปรับลดลง (de-rate) เพราะ upside จากการปรับเพิ่ม ROE มีจำกัด ขณะที่หุ้น defensive จะถูก re-rate เพิ่มขึ้น เพราะ ROE เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านกรอบ SET ในเดือนนี้ มีกรอบบนที่แนวต้าน 1350 และ 1390 จุด ส่วนกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1285 และ 1265 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน ผมแบ่งเป็นพอร์ตลงทุน และพอร์ตเก็งกำไร
oโดยพอร์ตซื้อลงทุนให้ซื้อสะสมหุ้นบริเวณ 1280-1300-1320 จุด โดยมีหุ้นแนะนำ ได้แก่
o หุ้น Defensive คือ ADVANC BCH
o หุ้น tactical ที่มีคุณภาพกำไรดีและตํ่ากว่ามูลค่า คือ BBL ERW IVL HANA
o ส่วนพอร์ตเก็งกำไร ควรควบคุมความเสี่ยง โดยกำหนดจุด Stop Loss ทุกครั้ง โดยมีหุ้นแนะนำ ได้แก่
o ADVANC หุ้น defensive-ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการแข่งขันที่ลดลง
o INTUCH : หุ้นปันผลสูง-ได้ sentiment บวกตาม THCOM, GULF เข้าซื้อลงทุนกว่า 5%
o BCH หุ้น Valuation ถูก, ผลประกอบการ Q2/63 เป็นจุดต่ำสุด ครึ่งปีหลังฟื้น ฐานผู้ป่วยเงินสดเยอะ, บริการเสริมตรวจโควิด-19 หนุน
o BGRIM : ดำเนินธุรกิจเพิ่มเติม ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินฯ มี Upside ส่วนเพิ่มจากโครงการใหม่ EIRR ไม่ต่ำกว่า 12% โรงไฟฟ้าก๊าซ SPP ในไทย และมาเลเซีย ขนาด 200-300MW โรงไฟฟ้า IPP ในเวียดนาม ขนาด 3000 MW
o EA ผลประกอบการ 2H63 ดีกว่า 1H63 กำไรทั้งปี 63 ขึ้นทำ new high ต่อเนื่อง มี upside ส่วนเพิ่มจากธุรกิจแบตเตอรี่เฟสแรก 1 GWh เริ่มรับรู้รายได้ 4Q63
o SAWAD จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด เปลี่ยนจากเดิมที่จ่ายปันผลเป็นหุ้น และแจกฟรี SAWAD-W2 ราคาหุ้นลงสะท้อนปัจจัยลดดอกเบี้ยสินเชื่อไปมาก คุณภาพสินทรัพย์ยังบริหารได้ มีเงินให้สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันในสัดส่วนตํ่าที่สุด...และพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ ด้วยรักและหวังดี
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม