ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เคจีไอ แนะนำ OSP คาดว่ากำไรสุทธิใน Q2/63 จะอยู่ที่ 863 ล้านบาท (+21.5% YoY, -6.8% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะไม่มีการตั้งสำรองพิเศษสำหรับผลประโยชน์พนักงาน ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะไม่มีกำไรจากการซื้อกิจการ
สำหรับแนวโน้มในครึ่งหลังปี 63 คาดว่า OSP จะได้อานิสงส์จากกำลังการผลิตใหม่ และการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้นหลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown หลังจากที่ปรับประมาณการใหม่แล้วทำให้ได้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564F ใหม่ที่ 45.50 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายอีก 19.7% จึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือเป็น ซื้อ
**ประมาณการ Q2/63 และปรับประมาณการ
โครงการประหยัดต้นทุนจะช่วยบรรเทาผลจากรายได้ที่ลดลง QoQ ใน Q2/63 ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิของ OSP ใน Q2/63 จะอยู่ที่ 863 ล้านบาท (+21.5% YoY, -6.8% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะไม่มีการตั้งสำรองพิเศษสำหรับผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะไม่มีกำไรจากการซื้อกิจการ Calpis Osotspa Co.,Ltd.
ทั้งนี้คาดว่ารายได้รวมของ OSP ใน Q2/63 จะอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท (+4.4% YoY, -1.8% QoQ) โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งของ C-Vitt ในขณะที่รายได้ที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19
โดยคาดสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะลดลงเหลือ 22.4% ใน Q2/63 จาก 23.2% ใน Q2/62 และ 23.0% ใน Q1/63 เนื่องจากมีการดำเนินโครงการประหยัดต้นทุน นอกจากนี้ คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว YoY เป็น 61 ล้านบาท จากส่วนแบ่งกำไรจาก House Osotspa Co.,Ltd.(HO) ซึ่งเป็นผู้ผลิต C-Vitt ถ้ากำไร 2Q63 เป็นไปตามคาด กำไรครึ่งแรกปี 63 จะคิดเป็น 46.8% ของประมาณการทั้งปี
**ผลประกอบการฟื้นหลังผ่อนคลาย lockdown
ทั้งนี้ เชื่อว่ายอดขายเครื่องดื่มจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นตามกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้เพิ่มขึ้นตามเฟสของการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ตั้งแต่เฟสแรก ที่อนุญาตให้ร้านอาหารสามารถขายอาหารแบบ takeaway และร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดเล็กสามารถเปิดกิจการได้ จนถึงเฟสที่ห้า ซึ่งโรงเรียน ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ และบาร์ สามารถกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ ซึ่งเราคาดว่าจะทำให้การบริโภคในประเทศเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังปี 63
ปรับประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไร และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นอีก 5.1% และปี 2565 ขึ้นอีก 5.7% เนื่องจากคาดว่า GPM และส่วนแบ่งกำไรจะเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า GPM จะอยู่ในช่วง 35.5%-36.6% ในปี 2563-65 จากเดิมที่คาดไว้ที่ 35.2%-35.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินโครงการประหยัดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจาก HO จะเพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตในประเทศซึ่งจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังปี 63 เป็นต้นไป
จากประมาณการใหม่ ทำให้ได้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 ใหม่ที่ 45.50 บาท อิงจาก PER ที่ 33.0x คาดว่า OSP จะได้อานิสงส์จากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นในครึ่งหลังปี 63 หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown โดยผลประกอบการในระยะยาวจะได้แรงหนุนจากแผนขยายธุรกิจในเมียนมาร์ ทั้งนี้ เนื่องจากยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายของอีก 19.7% จึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ
อย่างไรก็ตาม การประหยัดต้นทุนได้น้อยกว่าที่คาดไว้ ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศลดลง และเพิ่ม GPM ของธุรกิจเครื่องดื่มได้น้อยเกินคาด
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม