> mai > BM

30 มิถุนายน 2020 เวลา 09:00 น.

BMตั้งโต๊ะรับออเดอร์นอก เพิ่มไลน์ผลิต-ปั๊มยอด120ล.

ทันหุ้น –สู้โควิด - BM เร่งเครื่องผลิตสินค้าให้ทันออร์เดอร์ หลังอเมริกาเริ่มเปิดเมือง มีสินค้ารอส่งมอบเพียบ แถมลูกค้าเริ่มป้อนออร์เดอร์สินค้าใหม่ ปักธงรายได้ปีนี้ตามนัด 120 ล้านบาท ฟากผู้บริหารทุ่มงบ 30 ล้านบาทขยายไลน์ผลิตใหม่ รองรับออร์เดอร์ส่งออก มั่นใจผลงานปีนี้วิ่งชนเป้าโต 30-40% ตุนแบ็กล็อกแน่น 500 ล้านบาท


นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)กลุ่มแม่พิมพ์โลหะ ตู้โลหะเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าอเมริกาจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทเร่งผลิตและส่งมอบสินค้ากับลูกค้า หลังอเมริกาเริ่มเปิดประเทศ ขณะเดียวกันลูกค้าทยอยส่งออเดอร์สินค้าใหม่ ทำให้บริษัทต้องเร่งผลิตและส่งมอบให้ทันตามออเดอร์


เพิ่มไลน์ผลิตสินค้า


บริษัทมีออเดอร์รอส่งมอบให้กับลูกค้าจากเดือนกรกฎาคมไปจนถึงธันวาคมรวมแล้วประมาณ 100 ตู้คอนเทรนเนอร์ หรือคิดเป็นมูลค่ารวมราว 100 กว่าล้านบาท ส่วนทั้งปีนี้คาดการส่งมอบ และรับรู้รายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 120 ล้านบาท พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนจะขยายไลน์การผลิตใหม่ โดยการสร้างโรงงาน เพื่อรองรับออเดอร์การส่งออก ซึ่งการลงทุนจะเป็นแผนช่วงปลายปี หรือต้นปีหน้า (2564) เบื้องต้นบริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 30 ล้านบาท


ขณะที่ทิศทางครึ่งปีหลังปี 2563 บริษัทประเมินทิศทางธุรกิจกลุ่มผู้รับเหมา หรือ B2B จะเริ่มมีออเดอร์เพิ่มขึ้น และคาดจะส่งมอบออเดอร์ให้กับลูกค้าได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2563 ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท เป็นงานจากการขยายรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมถึงงานส่วนต่อขยายภายในสนามบินทั้ง 3 แห่ง


บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2563 เติบโต 30-40% เช่นเดิม จากก่อนหน้านี้บริษัทมีแผนจะทบทวนเป้าหมายรายได้ลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจมาจนถึงไตรมาส 2/2563 ทำให้บริษัทเตรียมปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม แต่ผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ประกาศงบออกมาแล้ว ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และคาดยังเติบโตต่อเนื่อง อนึ่งปี 2562 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 913.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 36.01 ล้านบาท


ผลงาน Q2 โตต่อ


ขณะเดียวกันบริษัทคาดแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2563 จะเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2563 เพราะราคาวัตถุดิบเหล็ก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักไม่ผันผวน และอยู่ระหว่างต่ำที่ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับปีก่อนราคาเหล็กอยู่ที่ประมาณ 20 บาทต่อกิโลกรัม ประกอบกับงานก่อสร้างรถไฟฟ้ายังดำเนินการต่อเนื่อง ทำให้บริษัทยังสามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ตามสัญญา โดย 3 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วที่ 226.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.29 ล้านบาท


นายธีรวัต กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทปรับโมเดลการดำเนินธุรกิจไปสู่ New Normal เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับตัวและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยรับจ้างผลิตและขายสินค้าให้กับลูกค้า (OEM) และการออกแบบสินค้าให้กับลูกค้า (ODM) จากที่เดิมบริษัทผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์บริษัทเองและขายให้กับกลุ่มผู้รับเหมา แต่ที่ผ่านมากลุ่มผู้รับเหมาได้รับผลกระทบการดำเนินงาน จากกรอบควบคุมเวลา หรือเคอร์ฟิว ส่งผลให้บริษัทส่งมอบงานให้ลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนด


มองอนาคตสดใส


สำหรับงาน OEM และ ODM บริษัทประเมินทิศทางในอนาคตจะเติบโตได้มาก เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในการผลิตและรองรับคำสั่งซื้อ หรือออเดอร์ ประกอบกับหากลูกค้าลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่จะทำให้เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อีกทั้งบริษัทมีกำลังการผลิตเพียงพอ โดยเหลือกำลังผลิตปัจจุบันยังสามารถผลิตสินค้าได้ 20-30% ทั้งนี้บริษัทคาดสัดส่วนรายได้ของ OEM และ ODM จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50% จากปัจจุบันที่ 40% ตามการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ ขณะที่การผลิตสินค้าแบรนด์บริษัทเองจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50% จากก่อนหน้าที่ 60%

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X