> SET > CK

29 มิถุนายน 2020 เวลา 08:30 น.

สั่งแก้เกมPPPล่าช้า บีบเอกชนเร่งลงทุน

ทันหุ้น-สู้โควิด-รองนายก “สมคิด” รับ PPP โดนกับดักพิษโควิด ทำให้ล่าช้า เดินเกมแก้สั่ง สคร. ติดตาม จี้เอกชนเร่งลงทุน ขู่ถึงขั้นยกเลิกโครงการ พร้อมเดินหน้า PPP การแพทย์ สังคม การศึกษา สั่งบีโอไอ ออกแพ็คจูงใจ ด้านโบรกมองหุ้นรับเหมาจะได้รับประเด็นดีจากการประมูลสายสีส้ม ม่วงใต้ ชี้ราคาหุ้นหลัก CK STEC ยังถูกแนะลงมาสะสมได้


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้รายงานความคืบหน้าโครงการ PPP แทบทุกโครงการมีความล่าช้าออกไป 6-10เดือน จากสถานการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งได้กำชับให้ นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. เร่งรัฐวิสาหกิจที่เป็นเจ้าของโครงการลงทุนเดินหน้าผลักดันโครงการต่อไปให้ได้ ซึ่งรัฐวิสาหกิจต้องให้เหตุผลให้ได้ว่าการลงทุนล่าช้าเพราะอะไร


โดยโครงการ PPP มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่แล้วก็ให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว ส่วนที่สอง คือ โครงการที่มีแผนเข้า PPP ขณะนี้ขอหยุดโครงการไว้ จึงได้ให้ สคร.ไปติดตามว่าหยุดโครงการเพราะอะไร มีเหตุผลหรือไม่ หากไม่มีเหตุผลจะไม่ให้ชะลอโครงการ แต่หากยังชะลอโครงการหรือไม่ยอมลงทุนก็ให้ยกเลิกโครงการ แล้วไปหาโครงการอื่นมาทดแทน


@สั่งบีโอไอจูงใจลงทุนPPP


ทั้งนี้โครงการลงทุน PPP ไม่ใช่มีเพียงโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น ต้องการให้การลงทุน PPP ในโครงการด้านสังคม ด้านการแพทย์ สาธารณสุข การศึกษา ที่อยู่อาศัยเพื่อคนชรา การท่องเที่ยว การเกษตร โดยให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปดูมาตรการจูงใจเพิ่มเติม และให้ สคร. ประชาสัมพันธ์ว่ารัฐบาลมีการร่วมลงทุนในลักษณะนี้ เพื่อให้เอกชนเสนอโครงการเข้ามา


ด้านนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า โครงการลงทุน PPP ล่าช้า เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 มีการปิดประเทศ ทำให้การจัดส่งวัสดุอุปกรณ์จากต่างประเทศเพื่อก่อสร้างลงทุนไม่สามารถทำได้


ขณะที่ นายชาญวิทย์ นาคบุรี ที่ปรึกษาด้านการประเมินผลรัฐวิสาหกิจ สคร. กล่าวว่า โครงการ PPP มีทั้งหมด 90 โครงการ มูลค่า 1.09ล้านล้านบาท มีโครงการที่สำคัญ 18 โครงการ มูลค่า 4.72แสนล้านบาท ในจำนวนมีกว่า 10 โครงการที่ลงทุนล่าช้า ซึ่ง สคร.ติดตามใกล้ชิด หากการลงทุนไม่เป็นไปตามแผน จะเชิญผู้บริหารเจ้าของโครงการมาร่วมประชุมเพื่อชี้แจงในครั้งหน้า


คณะกรรมการได้เห็นชอบการออกกฎหมายลูก PPP เรื่องโครงการลงทุนที่มีมูลค่าไม่เกิน 5,000ล้านบาท ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแม่ PPP ทั้งหมด ให้ปฏิบัติตามกฎหมายลูกที่จะออกมา ประกอบด้วย 2ส่วน ในส่วนแรกกิจการโครงการไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจของหน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงดำเนินการไปได้เลย และในส่วนที่สองโครงการที่มูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5,000ล้านบาท ให้เสนอ สคร. เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ PPP พิจารณาว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายแม่หรือไม่ หากไม่จำเป็นก็ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงดำเนินการไปได้เลย


@ทยอยสะสม CK เป้า 24 บ.


บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ให้น้ำหนักการลงทุน กลุ่มรับเหมา เท่าตลาด โดยประเมิน CK, ITD, STEC, UNIQ จะมีผลประกอบการไตรมาส 1/2563 น่าผิดหวัง แนวโน้มปี 2563 คาดจะปรับลดลง แต่ราคาซื้อขายอยู่บน Valuation ที่ถูก การเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ ม่วงใต้ จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเก็งกำไร จึงแนะนำ TRADING BUY ในช่วงอ่อนตัวหุ้น CK (เป้าหมาย 24 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 20 บาท)


โดย CK มีประเด็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางมูลค่าแสนกว่าล้านบาทคืบหน้า รับฟังความคิดเห็นเสร็จแล้ว STEC มีประเด็นกลุ่ม BBS เตรียมลงนามสนามบินอู่ตะเภา 2.9 แสนล้านบาท วันที่ 19 มิ.ย. นี้ สำหรับน้ำหนักการลงทุนกลุ่มรับเหมาเราให้เท่าตลาด (Neutral)

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X