ทันหุ้น –สู้โควิด –STEC ส่งซิกครึ่งหลังปี 2563 ฟอร์มแจ่ม โครงการรอบุ๊กอื้อ พร้อมตอกย้ำปีนี้รายได้เข้าเป้า 3.5หมื่นล้านบาท พร้อมเดินเกมชิงงานใหม่เกือบ 3 แสนล้านบาท เติม Backlog จากเดิม 8 หมื่นล้านบาท กินยาวอีก 4 ปี แถมลุ้นเซ็นโครงการอู่ตะเภา 3 หมื่นล้านบาทช่วงปลายปีนี้เพิ่ม
นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลงานครึ่งหลังปี 2563 น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกปีนี้ เนื่องจากธุรกิจมีงานในมือ (Backlog) ที่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมโครงการสิ่งปลูกสร้างในสนามบินอู่ตะเภาเฟสที่ 1) จากโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน โดยน่าจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 4ปีนับจากนี้หรือราวปี 2567
อย่างไรก็ดี ในปี 2563 บริษัทประเมินรายได้คงเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้ระดับ 3.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 3.2หมื่นล้านบาท หลังช่วง 3 เดือนแรกปีนี้มีรายได้แล้วราว 9.35 พันล้านบาท ประกอบกับในช่วงที่เหลือปีนี้ยัง Backlog ที่รอรับรู้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนยังมีโอกาสได้รับโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้เข้ามาเสริมด้วย
*ประมูลงานใหญ่
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าประมูลโครงการขนาดใหญ่ๆ ประมาณ 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าราว 2.75-2.85 แสนล้านบาท แบ่งเป็น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 8-9 หมื่นล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายอีก 1.2แสนล้านบาท, โครงการถไฟรางคู่ (ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ) อีก 7.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมรายรับในอนาคต คาดจะเปิดซองและได้เห็นความชัดเจนโครงการต่างๆ ข้างต้นภายในปีนี้
ส่วนงานก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในโครงการสนามบินอู่ตะเภา เฟสที่ 1 มูลค่ารวมราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย อาคารผู้โดยสารและอาคารประกอบ, คลังเก็บสินค้า (Cargo), Free Zone ฯลฯ หวังน่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ไม่เกินไตรมาส 4/2563และน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ไม่เกินต้นปี 2565
ทั้งนี้ หากแผนงานต่างๆ สามารถสำเร็จและเป็นไปตามที่วางไว้ ทาง STEC คาดสิ้นปีนี้ตัวเลข Backlog คงขยับเพิ่มเป็นมากกว่า 1แสนล้านบาท และคงสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคตต่อไป
*ฉวยจังหวะลงทุน-เป้า 23 บ.
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น STEC ให้ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท เพราะมองว่สโครงการเมืองการบินตะวันออกมูลค่า 2.9 แสนล้านบาท เตรียมลงนามสัญญากับกลุ่ม BBS Joint Venture ในวันศุกร์นี้ ซึ่ง STEC ถือหุ้น 20% ในกลุ่ม BBS เป็นแกนหลักด้านการก่อสร้างซึ่งมีมูลค่างานทั้งหมด 6 หมื่นล้านบาท เฟสแรกที่เป็นงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารมูลค่า 2หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันทาง STEC ยังมีงาน O&M มอเตอร์เวย์บางปะอิน รถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยาย รอเซ็นสัญญา ช่วยดันงานในมือ หรือ Backlog ให้สูงเกิน 1 แสนล้านบาท สูงสุดในกลุ่ม รองรับรายได้กว่า 2 ปี ขณะที่ฐานะการเงินมีความแข็งแกร่ง ปลอดหนี้เงินกู้ ความเสี่ยงคือการควบคุมต้นทุน อีกทั้งฝ่ายวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2563 คาดทรงตัวจากไตรมาส 1/2563 เนื่องจากงานก่อสร้างไม่ถูกกระทบจากโควิด-19 จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม