> mai > YGG

24 มิถุนายน 2020 เวลา 09:20 น.

YGGแบ็กล็อกแน่น110ล. มีลุ้นกำไรQ3ทำจุดสูงสุด

ทันหุ้น – สู้โควิด - YGG มั่นใจรายได้มาตามนัดโต 15-20% กอดแบ็กล็อกแน่น 110.5 ล้านบาท รุกขยายฐานลูกค้าจีน ญี่ปุ่น และอเมริกา หนุนสัดส่วนรายได้ต่างแดนอยู่ที่ 70% หลังความต้องการคอนเทนต์เพียบ ฟากโบรกมีมุมมองเชิงบวก เชื่อได้รับประโยชน์จาก Social distancing คาดกำไรปกติในไตรมาส 2/2563 แตะระดับ 15 ล้านบาท และทำจุดสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3-4/2563


นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ YGG ดำเนินธุรกิจให้บริการออกแบบและจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟิก แอนิเมชั่น เกี่ยวกับงานโฆษณา ภาพยนตร์ รวมถึงผลิตและรับจ้างผลิตเกม เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 15-20% ต่อจากปีก่อน 196.6 ล้านบาท โดยบริษัทยังดำเนินการให้บริการงานตกแต่งภาพเคลื่อนไหว โฆษณา ภาพยนตร์ (Visual Effects) งานภาพยนตร์แอนิเมชั่น (Animation) งานผลิตและรับจ้างผลิตเกม (Game)


กอดแบ็กล็อกแน่น


โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 บริษัทมีงานในมือ(Backlog) อยู่ที่ 110.5 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 ที่ 64 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นราว 138% ทั้งนี้งาน Visual Effects เป็นงานระยะสั้น และรับเงินรวดเร็ว ในขณะที่งาน Animation และ Game เป็นงานโปรเจ็กต์ระยะยาว


ทั้งนี้บริษัทจะพยายามรักษาสัดส่วนรายได้ต่างประเทศไว้ที่ 70% และในประเทศที่ 30% โดยสัดส่วนรายได้ต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2559 ที่ 15% และขยับเพิ่มมาจนไตรมาส 1/2563 ที่ 70% จากการขยายฐานลูกค้าไปจีน ญี่ปุ่น และบริษัทเตรียมจะรองรับฐานลูกค้าใหม่จากอเมริกา


บริษัทประเมินงานด้าน Animation จะมาจากประเทศจีนและญี่ปุ่นมากขึ้น ส่วนรายได้ในประเทศจะเป็นงาน Visual Effectsโดยรูปแบบการทำภาพยนต์โฆษณาในประเทศจะเปลี่ยนไป หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทจะมีการทำโฆษณาให้กับบริษัทขายเกมมากขึ้น เนื่องจากใช้เวลาในการถ่ายทำน้อยลง โดยลูกค้าหันมาใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคแทน


โบรกมองเชิงบวก


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ระบุถึง บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ว่า คงมุมมองเชิงบวกต่อ YGG เนื่องจากเป็นอีกหุ้นที่ได้ประโยชน์ไปกับกระแสการเติบโตของ Social distancing ทำให้อัตราการเล่นเกม การรับชม Content บน Online platform เติบโตอย่างมาก จึงมีผู้จ้างผลิตผลงานจำนวนมากเช่นกัน


ปัจจุบันมี Backlog มูลค่าราว 100 ล้านบาท สูงกว่าระดับปกติที่อยู่ที่ 50 - 60 ล้านบาทยังไม่รวมงาน VFX ที่เป็นรายได้ประจำที่มีการรับรู้รายได้สั้นๆ จึงไม่รวมใน Backlog ซึ่งมูลค่าส่วนใหญ่ Backlog เป็นลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตเกมรายใหญ่ในประเทศที่ได้ประโยชน์จากการระบาดของ COVID-19 และการ WFH ทำให้อุปสงค์การเล่นเกมส์เพิ่มขึ้นสูง มีการจ้างงาน VFX ขนาดใหญ่มากขึ้น


เล็งเปิดตัวเกม


ขณะที่มีงาน Animation เดิมใน Pipeline ที่เลื่อนมาจากไตรมาส 1/2563 เป็นงาน Series ใน Netflix ทั้งในญี่ปุ่น และสหรัฐฯ และงานลูกค้าใหญ่ในจีนทั้งหมดทยอยรับรู้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้คาดกำไรปกติในไตรมาส 2/2563 อาจขึ้นไปแตะระดับ 15 ลบ+/- ได้และทำระดับสูงสุดใหม่ได้ในไตรมาส 3-4/2563

นอกจากงานรับจ้างผลิตแล้วคาดว่าภายในไตรมาส 3/2563 จะมีการเปิดตัวเกมออนไลน์ของบริษัทเอง เป็นการนำ Home sweet home ที่เคยได้รับความนิยมมาพัฒนาเพื่อให้สามารถเล่นบนโทรศัพท์มือถือ และ Smart device ได้ ซึ่งจะตอบโจทย์กระแสอุปสงค์ตลาดเกมที่เติบโตสูงในปีนี้ได้ รวมถึงรายได้จากการขายค่าโฆษณาซึ่ง COVID-19 ทำให้ผู้ผลิตสินค้าลดการใช้งบโฆษณาผ่าน TV และสื่อนอกอาคารมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้นซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X