เปิดโผ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปลดล็อกชาวต่างชาติ 2 กลุ่มใหญ่เข้าไทย

ทันหุ้น –สู้โควิด –บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ศบค.เผยเตรียมชง “ทราเวล บับเบิ้ล ” ต่อ ศบค.ชุดใหญ่ ปลดล็อกให้ชาวต่างชาติ 2กลุ่มใหญ่ทำธุรกิจ-ดูแลสุขภาพ-ท่องเที่ยวในไทยได้ ทั้งอยู่ใน State Quarantine และได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกกักตัว 14 วัน เพราะมาแค่ระยะสั้นๆ เล็งกลุ่มเป้าหมาย 3 ประเทศหลัก “จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้”

ชุดแรกคือ กลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มเป้าหมายจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อย

1. นักธุรกิจ นักลงทุน ซึ่งมีการลงทะเบียนประมาณ 700 คน

2. แรงงานฝีมือและเป็นผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ที่จะต้องเข้ามาดูเรื่องของโรงงาน มีการทำงานในเรื่องของธุรกิจ ประมาณ 22,000 คน

3. กลุ่มคนต่างด้าวที่มีครอบครัวเป็นคนไทย ที่ต้องการอยากจะกลับมาหาครอบครัว และกลุ่มคนต่างด้าวที่มีที่อยู่ในไทย ประมาณ 2,000 คน

“สามกลุ่มแรก สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยและเข้าอยู่ใน State Quarantine 14 วันได้”

4. นักท่องเที่ยวที่เข้ามาทำทางด้านการแพทย์ เรียกว่า Medical and Wellness Tourism ส่วนนี้มีความต้องการประมาณ 30,000 คน กลุ่มพวกนี้เข้ามารับการรักษา หรือดูแลเรื่องสุขภาพ และอยู่ในโรงพยาบาล มาตรฐานพอๆ กับ State Quarantine ของรัฐบาล

ส่วนกลุ่มที่สอง ขอผ่อนผันที่จะไม่อยู่ในพื้นที่ State Quarantine กลุ่มนี้มีอยู่ 3 กลุ่มย่อยด้วยกัน

1. นักธุรกิจ นักลงทุน ที่เดินทางเข้ามาในระยะสั้นๆ เข้ามาเจรจาธุรกิจ เข้ามาประชุม 2-3 วัน

2. แขกของรัฐบาล หรือของส่วนราชการต่างๆ เชิญเข้ามาประชุม เชิญมาเป็นวิทยากร เข้ามาแล้วทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อื่นๆ ตามมา

3. นักท่องเที่ยวที่เดินทางตามโครงการทราเวล บับเบิ้ล ประเทศหลักๆ ที่เตรียมเสนอ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซึ่ง 3ประเทศเหล่านี้ก็เป็นประเทศหลักที่เดินทางเข้าในในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก (ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ)

หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์มากสุดจากการเสนอปลดล็อกชาวต่างชาติ 2กลุ่มใหญ่เข้าไทย

1) กลุ่มโรงพยาบาล (BH, BDMS, BCH, CHG, THG, EKH): แม้เริ่มมีสัญญาณบวกมากขึ้น จากประเด็นข่าวที่มีผู้ป่วยต่างชาติประสงค์เข้ามารักษาในประเทศไทย 30,000 คน หรือคิดเป็น 10% ของผู้ป่วยต่างชาติทั้งปี (อิงสมมติฐานผู้ป่วยต่างชาติเข้าใช้บริการเป็นเวลา 10 วัน และอิงสถิติผู้ป่วยต่างชาติเข้ามารักษาในประเทศไทย 3 ล้านครั้งในปี 2019) แต่เรายังคงมีมุมมองเดิมโดยเรายังมองว่าการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติอาจไม่ดีมากนัก จากค่าใช้จ่ายที่ต้องกักตัวใน รพ. 53,000 บาท/คน (อิง BDMS wellness resort/คน) + ค่าใช้จ่ายในการรักษา เฉลี่ย 163,000 บาท/ครั้ง (10 คืน) ขณะที่ญาติที่ติดตามมาเราคาดว่าผู้ป่วยยังคงต้องกักตัว 14 วันเช่นเดิม ส่งผลให้ผู้ป่วยมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เรายังคงให้น้ำหนักกลุ่ม Healthcare “เท่ากับตลาด” และยังคงแนะนำ “ขาย” BDMS ที่ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท

2) กลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA): ผลบวกเล็กน้อย จากการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งแนวโน้มการให้ Business bubble ส่งให้นักลงทุนมีโอกาสที่จะกลับเข้าประเทศไทยที่เร็วกว่าที่เราคาดเดิมในกลาง-ปลาย 3Q20E ส่งผลบวกต่อยอด presale และ transfer ที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เราประเมินว่ากลุ่มธุรกิจแรกที่จะกลับมาลงทุนจะเป็นกลุ่มธุรกิจ Electronic และกลุ่มประเทศจีน (จีน+ไต้หวัน) อิงจากยอดอนุมัติ BOI ที่เพิ่มขึ้น 3M20 +129% YoY และ +10% YoY ตามลำดับ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1