> mai > TIGER

23 มิถุนายน 2020 เวลา 10:43 น.

TIGER คว้า 2 โปรเจคใหม่มูลค่า 680 ลบ. ดันแบ็คล็อกแตะ 1.2 พันลบ.

ทันหุ้น - สู้โควิด- TIGER รับเหมาก่อสร้างไซส์เล็กพริกขี้หนู แข็งแกร่ง งานไหลเข้าต่อเนื่อง คว้า 2 โปรเจคใหม่มูลค่า 680 ล้านบาท งานก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และงานก่อสร้างคอมมูนิตี้ มอลล์ และปั๊มน้ำมัน ปตท. สะเดา จ.สงขลา หนุนแบ็คล็อกในมือพุ่งแตะ 1200 ล้านบาท บิ๊กบอส “จตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์” ลั่นพร้อมใส่เกียร์เดินหน้า ลุยงานภาครัฐ-เอกชน มั่นใจฝ่ากระแสเศรษฐกิจ ธุรกิจเติบโตดีต่อเนื่อง ครึ่งปีหลัง เตรียมรับข่าวดี ลุ้นคว้าโปรเจ็คใหญ่


นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TIGER เปิดเผยว่า บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC) ซึ่งเป็นบริษัทแกนของบริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างใหม่จำนวน 2โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก มูลนิธิการแพทย์สยามบรมราชกุมารี ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 16 ตำบลองครักษ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก มูลค่าการก่อสร้าง 500 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ระยะเวลาดำเนินการ 600 วัน (เริ่มงานวันที่ 1กรกฎาคม 2563)


ส่วนโครงการที่ 2เป็นโครงการ คอมมิวนิตี้ มอลล์ และปั๊มน้ำมัน ปตท. แพลทตินั่ม สะเดา (Community Mall & PTT Platinum Sadao) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่ง บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด ได้รับงานรับเหมาออกแบบงานวิศวกรรมและงานรับเหมาก่อสร้างโครงการจากบริษัท ลีออน เอนเนอร์จี จำกัด มูลค่าโครงการ 180 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ระยะเวลาดำเนินการ 140 วัน (ตั้งแต่วันที่ 15กรกฎาคม – 1 ธันวาคม2563)


จากการเข้ารับงาน 2โครงการดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็น 1200 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการประมูลงานเพิ่มอีก 6โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ทั้งยังเตรียมยื่นประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม ในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นด้วย โดยคาดว่าภาครัฐจะมีโครงการใหม่ๆ ออกมาเปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง


ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้จะชะลอตัวลง อันเนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาดไวรัสโควิด – 19 นั้น แต่ TIGER ยังเดินหน้าขยายงานตามแผนที่วางไว้ทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน โดยในปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นรับงานภาครัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็น และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากภาครัฐ ส่วนงานภาคเอกชน บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ หันมารับงานที่มีขนาดเล็กลง มีระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างระยะสั้น ทำให้สามารถรับรู้รายได้ได้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้มีกระแสเงินสด และรักษาสภาพคล่องของกิจการ ผลักดันให้ผลประกอบการของธุรกิจในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30%”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X