> SET > CK

23 มิถุนายน 2020 เวลา 08:15 น.

ผุดโปรเจกต์รอบเมืองการบิน CK-STECงานพุ่งชนต่อ

ทันหุ้น – สู้โควิด – โปรเจกต์ผุดรัวๆ กพอ. เล็งพัฒนาพื้นที่รัศมี 30 กิโลเมตรรอบเมืองการบินฯ สั่งกระทรวง DE นำร่องผุด“เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล” พร้อมหาทางผ่อนปรนนักธุรกิจเข้าประเทศ นักวิเคราะห์ชี้งานจ่อกลุ่มรับเหมาแนะสะสม CK เป้า 25.90 บาท, STEC ที่ 23.20 บาท, UNIQ  7.20 บาท, SEAFCO เป้า 6.24 บาท และ PYLON ที่ 5.10 บาท


ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ กพอ. ว่า คณะทำงานอยู่ระหว่างพิจารณาการพัฒนาพื้นที่รัศมี 30 กิโลเมตรโดยรอบเมืองการบินภาคตะวันออก สนามบินอู่ตะเภา โดยอยู่ระหว่างพิจารณากำหนดพื้นที่เพื่อการพัฒนา


นอกจากนี้ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการผ่อนปรนการเดินทางเข้าประเทศ ให้กับกลุ่มนักธุรกิจ (Business Bubble) เฉพาะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC โดยการเดินทางเข้าประเทศจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ในการกักตัว 14 วัน แต่อาจผ่อนปรนช่วงการกักตัว ให้สามารถทำงานด้านเอกสารได้เฉพาะในพื้นที่ควบคุม ตามที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ EEC จากประเทศญี่ปุ่น อาทิ หอการค้าประเทศญี่ปุ่น (Japanese Chamber of Commerce : JCC) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ETRO) ภาคธุรกิจจากสาธารณรัฐเกาหลี และประเทศอื่นที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสหกรรมได้ยื่นหนังสือถึงภาครัฐขอให้ผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ รวมถึงการส่งช่างเทคนิคเข้ามาตรวจสอบซ่อมบำรุงเครื่องจักรในอุตสาหกรรม และเพื่อสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ต่อเนื่อง


ขณะเดียวกันรัฐบาลมีแผนพัฒนา “เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล” (EECd) โดยทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รับไปดำเนินการ เพื่อรองรับการลงทุนเทคโนโลยี 5G จากต่างประเทศ ซึ่งมีนักลงทุนที่สนใจเข้าร่วมพัฒนาเป็นจำนวนมาก


“ยอมรับว่าไตรมาส 2/2563 นี้เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของ GDP ปีนี้แล้ว และจะทยอยฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ซึ่งรัฐบาลก็เร่งอำนวยความสะดวกกับภาคเอกชนทุกด้าน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจขับเคลื่อนต่อไป ในระยะสั้นเราก็ต้องพยุงเศรษฐกิจในประเทศด้วยการลงทุน-พัฒนา เตรียมความพร้อมเมื่อเศรษฐกิจฟื้น นักลงทุนก็เข้ามาลงทุนได้ทันทีเพราะสาธารณูปโภคเราพร้อมหมดแล้ว”


คงเป้ายอดขอ BOI ที่ 1 ล.ล.


ดร.คณิศ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ยังคงเป้ายอดขอส่งเสริมการลงทุนใหม่ทั้งปี 2563 ไว้ที่ 1 ล้านล้านบาทแม้ว่าช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 จะรายงานข้อมูลคำขอในภาพรวมลดลง 27% และในกลุ่ม EEC ลดลง 10% จากปัญหาโควิด-19 โดยประเทศที่ยังคงแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนยังคงเป็น จีน, ญี่ปุ่น, และสิงคโปร์


“ยอดที่ได้รับการอนุมัติยังคงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเดิม แต่รัฐบาลยังคงต้องการกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่อย่างอุตสาหกรรมการแพทย์, อากาศยาน, ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์, ดิจิทัล, และเทคโนโลยีชีวิภาพ ซึ่งทาง BOI ก็ต้องไปทำการบ้านว่าจะดึงดูดกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เหล่านี้ให้เข้ามาลงทุนได้อย่างไร”


หนุนงานกลุ่มรับเหมา


นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์จะมีเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมก่อสร้าง ราว 1.76 แสนล้านบาท อยู่ในอุตสาหกรรม ภาครัฐจะกลับมาให้ความสนใจการผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้กรอบเวลาของงานประมูลที่ค้าง มีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลต่อการกระจายงานทั้งในกลุ่มผู้รับเหมารายใหญ่ และรับเหมาฐานราก ให้มีการรับงานใหม่เพิ่มของกลุ่มสะท้อนไปยังการเติบโตของผลประกอบการในอนาคต


ฝ่ายวิเคราะห์ แนะนำ“ทยอยสะสม” หุ้นกลุ่มรับเหมา ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2564 โดย CK ราคาเหมาะสม 25.90 บาท, STEC ราคาเหมาะสม 23.20 บาท, UNIQ ราคาเหมาะสม 7.20 บาท, รวมถึง SEAFCO ราคาเหมาะสม 6.24 บาท และ PYLON ราคาเหมาะสม 5.10 บาทที่มีโอกาสรับงานฐานราก

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X