โผหุ้นปันผลเกิน4% เป้าหนีร้อนพึ่งเย็น

ทันหุ้น-สู้โควิด- จับตาเงินเข้าหุ้นปันผลสูง หลังกลุ่มแบงก์กร่อยถูกเบรกปันผลกลางปี โบรกเปิดโผหุ้นปันผลสูงน่าสนใจ BTSGIF-TTW-INTUCH-DCC-AP-TVO ชี้ทิศทางธุรกิจฟื้นตัวดี อัตราปันผลระดับ 4-6%ผลงานเติบโตต่อเนื่อง แถมราคายังถูก รับห่วง NPL แบงก์

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า นักลงทุนที่คาดหวังเงินปันผลระหว่างกาลกับธนาคารพาณิชย์นั้น ผิดหวังกับการที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) การขอให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่าย "เงินปันผลระหว่างกาล" และ "งดซื้อหุ้นคืน" แม้จะเป็นมาตรการเพื่อไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ "การ์ดตก" ให้รักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็งต่อเนื่องจนกว่าจะจัดทำแผนบริหารจัดการเงินกองทุนใหม่ได้ชัดเจนก็ตาม

ให้น้ำหนัก “ธนาคารพาณิชย์” น้อยกว่าตลาดจากทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงความน่าสนใจด้านอัตราผลตอบแทนปันผล (Div Yield) ในปี 2563 เริ่มลดลง แนะนำ ขาย ย้ายกลุ่มเล่นชั่วคราว

“สถานการณ์ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จะเป็นผลกระทบในระยะกลาง ซึ่งการฟื้นตัวจะต้องขึ้นอยู่กับภาพรวมเศรษฐกิจ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนคือการหลีกเลี่ยงหุ้นธนาคารพาณิชย์ชั่วคราว แล้วให้น้ำหนักไปลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผลสูง ถือเป็นตัวแทนธนาคารพาณิชย์ได้ดี”

@ หุ้นปันผลสูงเป้าเงิน

สำหรับหุ้นจ่ายปันผลสูงที่น่าสนใจ ประกอบด้วย “กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท” หรือ “BTSGIF” เป็นหนึ่งในหุ้นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ราคาปัจจุบันมีส่วนลด (Discount) กว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิถึง 20% และเป็นหุ้นที่มีความผันผวนต่ำมีค่า Beta น้อยกว่า1

“บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน)” หรือ “TTW” ถือเป็นตัวเลขที่ดี ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน อีกทั้งคาดหวังอัตราเงินปันผลสูงกว่า 4% ต่อไป ราคาเหมาะสมที่ 15.10 บาท

นอกจากนี้ยังมี “บริษัท อินทัช โฮลดิ้งจำกัด (มหาชน)” หรือ “INTUCH” ถือเป็นหุ้นที่ได้รับ Sentiment เชิงบวกต่อจาก THCOM เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นสูงเกิน 40% ประเมินราคาเหมาะสมที่ 70 บาท

“บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน)” หรือ “DCC” ซึ่งแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2563 จะมีโอกาสสร้าง Positive Surprise ดี อีกทั้งยังมีอัพไซด์สูงเป็น 20% และคาดหวังอัตราเงินปันผลมากกว่า 6% ต่อปี ประเมินราคาเหมาะสมที่ 2.28 บาท

“บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)” หรือ “AP” ที่คาดว่ากำไรไตรมาส 2/2563 จะมีแนวโน้มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดยมีอัพไซด์สูงกว่า 10% สวนทางหุ้นในกุ่มเดียวกันแทบจะไม่มีอัพไซด์เลย ประเมินราคาเหมาะสมที่ 6.30 บาท

“บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)” หรือ “TVO” โดยมีจุดเด่นจากการจ่ายปันผลสม่ำเสมอตั้งแต่ปี 2534 โดยปี 2563 คาดหมายอัตราเงินปันผลราว 6% และมีโอกาสเข้าคำนวณ SET 100 ในรอบนี้ ประเมินราคาเหมาะสมที่ 30 บาท

@ ส่อง NPL แบงก์พาณิชย์

นายเทิดศักดิ์ ระบุถึง มุมมองของนักลงทุนที่ตีความถึงแนวโน้ม NPL “ธนาคารพาณิชย์” ในอนาคตที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้สินเชื่อบุคคล คิดเป็นสัดส่วนราว 39% ของพอร์ตสินเชื่อกลุ่มฯ (หลักๆ เป็นสินเชื่อเคหะ)

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยทำการศึกษา ภาระหนี้ครัวเรือน ณ สิ้นงวดไตรมาส 4/2562 อยู่ในระดับสูงราว 80% ของ GDP สวนทางกับรายได้ที่เผชิญกับสภาวะ Income shock จากทั้งอัตราว่างงาน และรายได้ครัวเรือนลดลง จากการถูกปรับลดรายได้

ขณะที่กลุ่มลูกค้า SME (สัดส่วน 18% ของพอร์ตสินเชื่อธนาคาร) แม้มองฟื้นตัวเร็วกว่ารายย่อย แต่สถานการณ์ตั้งแต่ก่อน COVID-19 ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าใด จากภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า

ส่วนกลุ่มสินเชื่อรายใหญ่ (สัดส่วนราว 36% ของพอร์ตสินเชื่อธนาคาร) น่าจะแข็งแกร่งสุดในสภาวะปัจจุบัน

หากพิจารณาจากมาตรการชะลอชำระหนี้ (Loan payment holiday) ที่มีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการราว 6.6 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อรายย่อย, SME และ สินเชื่อรายใหญ่ ราว 57%, 32% และ 11% ตามลำดับ โดยกลุ่มลูกหนี้รายย่อย ที่มีปัญหาฟื้นตัวช้า ตามข้างต้น นำไปสู่มาตรการชะลอชำระหนี้เฟส 2 ที่เปิดให้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ 1 กรกฏาคม  – 31 ธันวาคม 2563 แม้ช่วยชะลอการไหลตกชั้นชั่วคราว แต่หากฟื้นตัวช้า ย่อมเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อระบบธนาคารพาณิชย์