> mai > STC

22 มิถุนายน 2020 เวลา 09:00 น.

‘STC’จับตาโปรเจ็กต์รัฐเข้าอื้อ ครึ่งหลังเด่น-แบ็กล็อก500ล.

ทันหุ้น – สู้โควิด - STC มีลุ้นคว้างานประมูลทั้งภาครัฐและภาคเอกชนช่วงครึ่งปีหลังเพียบ พร้อมส่งสัญญาณผลงานครึ่งหลังโตเด่น ไฮซีซั่นธุรกิจหนุน โชว์แบ็กล็อกแน่น 400-500 ล้านบาท ยันเป้ารายได้ปี 63 โต 10% ด้านโบรกเคาะกำไรทั้งปีเฉียด 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% แนะนำ “ซื้อ” เคาะราคาเหมาะสม 0.77 บาท


นายเอกชัย ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ จำกัด (มหาชน) หรือ STC ผู้ผลิตคอนกรีตครบวงจรในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เปิดเผยว่า บริษัทประเมินทิศทางธุรกิจและผลประกอบการครึ่งปีหลังปี 2563 จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะไฮซีซั่นของธุรกิจก่อสร้างจะอยู่ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ไปจนถึงไตรมาส 1 ในปีถัดไป ส่งผลให้บริษัทมองทิศทางรายได้และการขายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป และคอนกรีตผสมเสร็จได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าครึ่งปีแรก


คงเป้ารายได้โต 10%


ขณะเดียวกันแม้ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาในประเทศได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และพื้นที่ในจังหวัดระยอง เขตพื้นที่พัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวปิดทำการไประยะหนึ่ง แต่บริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ เนื่องจากธุรกิจก่อสร้างไม่ได้อยู่ในกรอบ พรก.ฉุกเฉิน และไม่ได้อยู่ในธุรกิจที่ถูกปิดดำเนินการชั่วคราว ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวอาจกระทบต่อการประมูลงานใหม่ ซึ่งถูกเลื่อนมาประมูลในช่วงมิถุนายน ซึ่งต้นเดือนเริ่มมีงานใหม่ออกมาให้ประมูลแล้ว และบริษัทอยู่ระหว่าติดตามงานดังกล่าว คาดจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้


สำหรับภาพรวมรายได้ปีนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตที่ 10% ต่อจากปีก่อน 422.05 ล้านบาท โดย 3 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 130.51 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.44 ล้านบาท การเติบโตที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการรับรู้รายได้จาก Backlog หรืองานในมือที่มีอยู่ 400-500 ล้านบาท คาดจะรับรู้ภายในปีนี้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันบริษัทคาดจะมีงานเข้ามาใหม่เพิ่มเติมอีกราว 248 ล้านบาท


เคาะเป้า 0.77 บ.


ทั้งนี้สัดส่วน Backlog ที่มีอยู่ในมือ แบ่งเป็น สัดส่วนจากงานรัฐประมาณ 70%  และงานเอกชน 30% สำหรับสัดส่วนรายได้จะขยับเพิ่มขึ้นหรือลดลง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การลงทุนโครงการก่อสร้างในแต่ละช่วง ซึ่งในช่วงต้นปีมาถึงปัจจุบันภาคเอกชนชะลอการลงทุน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมกันนี้บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าประเภทสำเร็จรูปมากที่สุด 80% สินค้าผสมเสร็จ 10-15% และสินค้าอื่นๆ 5%


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS แนะนำ “ซื้อ” STC ราคาเหมาะสม 0.77 บาท โดยในครึ่งปีหลังปี 63คาดว่าจะมีงานประมูลภาครัฐและภาคเอกชนออกมาเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ซึ่งคาดว่าบริษัทมีโอกาสได้งานเพิ่มทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ 1) ระบบสาธารณูปโภคในภาคอีสานราว 60-80 ล้านบาท และ 2) งานระบบสาธารณูปโภคจากถนนสุขุมวิทไปยังมาบตาพุดอีก 30-90 ล้านบาท


นอกจากนี้มีความคืบหน้าเรื่องสนามบินอู่ตะเภา รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ที่ได้ผู้ชนะการประมูล เป็นโอกาสของบริษัทเพิ่มเติมในการได้งานระบบสาธารณูปโภค


คาดกำไรพุ่ง 54%


ขณะที่ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปี 2563 อยู่ที่ 39.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนโดยในปี 2563 คาดว่าจะมีรายได้ราว 462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนและมีกำไร 39.7 ล้านบาทเติบโต 54% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากคาดว่างานก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง 2563 ตามที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น


ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวที่ระดับ 32.5% ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 21.4% และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสมสู่ 0.77 บาท ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยอ้างอิง P/E Ratio เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี + 1S.D. ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกัน DCON และ SCP ได้เท่ากับ 10.8 เท่า และคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 2563 ที่ 0.07 บาทต่อหุ้นได้

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X