ช็อก!สั่งแบงก์งดปันผล ธปท.ห่วงเงินสำรองวูบ

ทันหุ้น-สู้โควิด : ผู้ว่าการ ธปท. มองไกลเห็นเหตุร้ายในกอไผ่ จากพิษเศรษฐกิจ ห่วงเงินสำรองแบงก์วูบ สั่งธนาคารพาณิชย์ห้ามจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หรือ ซื้อหุ้นคืน เพื่อรักษาเงินกองทุน พร้อมสั่งทำแผนบริหารเงินกองทุน ด้านนักวิเคราะห์ห่วงมีเรื่องหนักที่ยังไม่รู้ แนะเลี่ยง ชี้หงอยแน่เพราะแบงก์มีดีจุดเดียวคือปันผล

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด 19) ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไป และยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ในระยะต่อไป

@ สั่งทำแผนทุนสำรอง

ธปท. จึงให้ธนาคารพาณิชย์จัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนสำหรับระยะ 1-3 ปีข้างหน้า โดยคำนึงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และศักยภาพของลูกหนี้ในการทำธุรกิจ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 คลี่คลาย

@ สั่งงดปันผลระหว่างกาล

ในระหว่างที่ธนาคารพาณิชย์จัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนใหม่นี้ ธนาคารพาณิชย์ขอให้งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในปี 2563 รวมถึงงดการซื้อหุ้นคืน เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์รักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็งและรองรับการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับแนวทางที่ธนาคารกลางหลายประเทศได้ดำเนินการแล้ว เพื่อรองรับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด 19

@ ห่วงมีอะไรในกอไผ่

นายธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า การประกาศของ ธปท. ที่ให้งดปันผลนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่อาจเป็นเพราะว่า ธปท. ห่วงเงินกองทุนที่จะลดน้อยลง ตามสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าเอ็นพีแอลอาจจะสูงขึ้นมาก ทำให้ธนาคารพาณิชย์มีผลประกอบการที่ลดลง

แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นแบงก์ไปก่อน หรือถ้าจะมีหุ้นรอดในสถานการณ์นี้ได้คือ  BBL เพราะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูง จึงได้รับผลกระทบน้อยสุด อย่างไรก็ดีคำสั่งชองแบงก์ชาติเป็นเพียงการงดจ่ายปันผลระหว่างกาล แต่ก็กระทบอยู่ดีเพราะผู้ที่ลงทุนในแบงก์ในขณะนี้ก็หวังปันผลเป็นหลัก ฉะนั้นเมื่อไม่มีปันผล KKP ก็จะกระทบสูงสุด

@ ตลาดหุ้นกระทบด้วย

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุ กรณีนี้ เป็นปัจจัยบ่งชี้ว่าวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศมากกว่าที่มีหลายฝ่ายประมาณการ

ปัจจุบันผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลแบงก์นับว่าสูงเฉลี่ย 6-8%ต่อปี เมื่อไม่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจึงเป็นปัจจัยกดด้นราคาหุ้นโดยตรง โดย ณ ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในสัดส่วนประมาณ 40%เบื้องต้นฝ่ายวิเคราะห์คาดราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลงประมาณ 3-4% จะฉุดดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ปรับตัวลดลงประมาณ 7 จุด

ทั้งนี้คาดว่าจะมีการขายหุ้นออกมา จึงแนะนำ “หลีกเลี่ยงการลงทุน” หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์จะเห็นเม็ดเงินลงทุนย้าย (sector rotation) เข้าสู่กลุ่มพลังงาน, โรงไฟฟ้า จึงแนะนำ “ทยอยสะสม”  , PTTGC, PTTEP, TOP, และ BGRIM