> KS Whole in one >

22 มิถุนายน 2020 เวลา 06:20 น.

วัคซีนโควิด-19: กุญแจสู่ทางออก

มูลค่าหุ้นในขณะนี้ไม่ถูกแล้ว ด้วยการซื้อขายที่ PER 21 เท่าต่อกำไรปี 2563 โดยกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยของตลาด (SET EPS)อยู่ที่ราวๆ 66 จุด (ลดลง 35% YTD)สำหรับปี 2563 และ 84 จุด สำหรับปี 2564 ทั้งนี้ ด้วยการที่ Modernaจะรายงานผลการทดสอบวัคซีนในเร็วๆ นี้ เราจึงเล็งเห็น downside risk ในวงแคบต่อ SET Index ในระยะสั้นนี้


ผ่านมาเราได้ติดตามจำนวนเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วโลก และอิงเกณฑ์เดียวกับที่รัฐบาลญี่ปุ่นใช้ในการบริหารจัดการนโยบายเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 โดยใช้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 7 วันที่ 0.5 เคสต่อประชากร 1 แสนคนเป็นเกณฑ์ ทั้งนี้ จากการที่อเมริกาใต้กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น (7.9 ล้านเคสทั่วโลก) ด้วยยอดผู้ติดเชื้อสะสมใหม่ที่ 10 เคสต่อประชากร 1 แสนคน ขณะที่ประเทศไทยและกลุ่มประเทศเอเชียหลายๆ แห่ง (จีน ไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรายใหม่ที่ต่ำกว่าในระดับ 1 เคส เราเชื่อว่าระดับที่ปลอดภัยควรต่ำกว่า 0.5 เคสและไม่เกิน 3 เคสต่อประชากร 1 แสนคน จากพัฒนาการดังกล่าวเราจึงมองว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูง และมองว่ายังเร็วเกินไปสำหรับหลายๆ ประเทศที่จะผ่อนปรนมาตรการที่เข้มงวดลง


ประเด็นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 1) หลายๆ ประเทศจะผ่อนปรนการเดินทางภายในประเทศลง 2) กลุ่มประเทศระดับภูมิภาคจะจัดเที่ยวบินระหว่างกัน 3) เที่ยวบินข้ามทวีปจะยังคงห้ามบินไปจนถึงปลายปี 2563 ขณะที่คาดว่าไทย จีน ไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะเข้าร่วมข้อตกลงกันเพื่ออนุญาตให้แต่ละประเทศในกลุ่มเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกันได้


ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตามสัปดาห์หน้า ได้แก่ การประชุม กนง. ในวันพุธซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ตัวเลขการส่งออก นำเข้าของไทยเดือน พฤษภาคม 2563 ซึ่งคาดว่าการส่งออกของไทยจะหดตัว 6.35% YoYขณะที่การนำเข้าจะหดตัว 18% YoYทำให้ประเทศไทยเกินดุลการค้าจำนวน 3,176 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้แนะนำติดตามการแถลงมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 (เฟสใหม่) จะเริ่มตั้งแต่  1 ก.ค.-31 ธ.ค.63 ของทางรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะส่งผลลบต่อกลุ่มธนาคาร และไฟแนนซ์ และติดตามรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐวงเงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งทางสภาพัฒน์ฯจะพิจารณาภายในวันที่ 22 มิ.ย.ก่อนส่งเข้าที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติต่อไป


กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ กลุ่ม บริษัทด้านบริหารจัดการสินทรัพย์ (BAM, JMT, CHAYO) ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากอุปทานด้านหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้/ทรัพย์สินรอการขาย (NPLs/NPAs)จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาส 4/2563-1/2564 ซึ่งจะกลายเป็นโอกาสในการขยายพอร์ตของกลุ่ม

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X