> SET > CPALL

19 มิถุนายน 2020 เวลา 13:37 น.

CPALL พร้อมฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์-กลับมาโตได้ในปีหน้า

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่า CPALL เป็นหนึ่งในบริษัทที่พร้อมฟื้นตัวหลังจากการคลายล็อกดาวน์ เนื่องจากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งด้วยเครือข่ายสาขาจำนวนมาก และมีประสิทธิภาพการดำเนินงานสูง ได้ประโยชน์จากการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น อีกทั้ง MAKRO ได้ผลบวกจากลูกค้า HORECA กลับมาเปิดธุรกิจ แม้เราปรับลดประมาณการกำไรลงสะท้อนผลกระทบจากการล็อกดาวน์ แต่ CPALL ยังซื้อขายที่ PE -1 SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 83 บาท จากเดิม 87 บาท


ความเคลื่อนไหวของหุ้น CPALL อยู่ที่ 69.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.36% มูลค่าการซื้อขาย 505.28 ล้านบาท

ปรับลดประมาณการสะท้อนผลกระทบจากล็อกดาวน์ ทั้งนี้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563-2564 ลง 15% และ 13% ตามลำดับ สะท้อนถึงยอดขายที่ได้รับผลกระทบมากกว่าคาด เนื่องจากการล็อกดาวน์ การยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ การ Work from homeการงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง และ เคอร์ฟิว ซึ่งทำให้ SSSG ในเดือน เม.ย.- พ.ค. ติดลบประมาณ 25% แต่ติดลบน้อยลงในเดือน มิ.ย. หลังจากการคลายล็อกดาวน์ และยกเลิกเคอร์ฟิวตั้งแต่ 15 มิ.ย. โดยรวมแล้วเราคาดว่า SSSG ใน Q2/63 ติดลบไม่ต่ำกว่า 15%


หลายปัจจัยสนับสนุนยอดขายฟื้นตัว แม้เศรษฐกิจและกำลังซื้อลดลง แต่คาดว่าธุรกิจร้านเซเว่นฯ ได้รับผลกระทบจำกัด เนื่องจากยอดการใช้จ่ายต่อใบเสร็จ(Spending per ticket) ไม่สูงโดยอยู่ที่ 70 บาท ขณะที่การคลายล็อกดาวน์ การ Work from home ลดลงและการเปิดเทอมจะสนับสนุนให้ SSSG ฟื้นตัวขึ้นใน Q3/63 


นอกจากนั้น มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในช่วง 1 ก.ค. – 31 ต.ค. (กำลังใจ-เราไปเที่ยวกัน-เที่ยวปันสุข) งบประมาณ 2.24 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้มีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลบวกต่อยอดขายร้านเซเว่นฯ อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มฟื้นตัวจากยอดขายเพิ่มขึ้น และการขายสินค้าพร้อมรับประทานมากขึ้นหลังจากยกเลิกเคอร์ฟิว และการกลับมาทำงานมากขึ้นนอกจากนั้น MAKRO ได้กลับมาเปิดพื้นที่ขายสินค้าที่ไม่จำเป็นตั้งแต่ 17 พ.ค. และคาดว่าจะได้ผลบวกจากลูกค้า HORECA กลับมาเปิดดำเนินงานหลังคลายล็อกดาวน์


ปีนี้ยังไม่กลับสู่ปกติ แต่กลับมาเติบโตได้ในปีหน้า คาดว่าผลประกอบการปีนี้จะลดลงโดย SSSG ร้านเซเว่นฯ ติดลบ 7% แต่ฟื้นตัวเป็นบวก 5% ในปี 2564 ขณะที่การขยายสาขายังคงเป็นไปตามแผน 700 สาขาต่อปี ทำให้คาดว่ากำไรปีนี้ลดลง 8% เป็น 21,099 ล้านบาท แต่จะกลับมาเติบโต 13% เป็น 23,942 ล้านบาทในปีหน้า


ความเสี่ยง : การระบาดของโควิด-19 รอบ 2ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยอากาศเย็นหรือฝนตกมากกว่าปกติรายได้เคาน์เตอร์เซอร์วิสชะลอ


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X