ทันหุ้น-สู้โควิด-บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุถึง DIF ว่า ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่าเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2563 TRUE ได้ขายหน่วยลงทุน DIF จำนวน 300 ล้านหน่วย (2.8% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่ชำระแล้วทั้งหมด) โดยเป็นการขายเฉพาะเจาะจงให้กับนักลงทุนสถาบันต่างชาติข้ามคืน ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (overnight placement) ที่ราคา 14.5-14.8 บาทต่อ หน่วย โดย TRUE จะมีเงื่อนไขห้ามท าการขายหน่วยลงทุนเป็ นเวลา 60 วันหลังจากธุรกรรม ครั้งนี้ ทั้งนี้ TRUE นั้นเป็นทั้งผู้ก่อตั้ง ผู้สนับสนุน ผู้เช่าสินทรัพย์รายใหญ่ และผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ที่สุดของ DIF ด้วยสัดส่วนการถือครองก่อนหน้าที่จะมีการขายหน่วยลงทุน ออกมาที่ 28.9%

หลังจากทำการขายหน่วยลงทุนแล้ว TRUE ยังคงสถานะผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ของ DIF ด้วยสัดส่วนที่ 26% เราจึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านพื้นฐานของDIF มากเท่าใดนักจากการทำธุรกรรมในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ราคาขายที่ 14.5-14.8 บาทนั้น คดิ เป็นสัดส่วน 5-7% จากราคาตลาดในปัจจุบันที่ 15.50 บาท ขณะที่เงื่อนไขการดำรง สัดส่วนการถือครองหน่วยลงทุน DIF ของ TRUE นั้นอยู่ที่เพียง 10% ซงึ่ เรามองว่าทั้ง 2 ปัจจัยนี้อาจก่อให้เกิด บรรยากาศเชงิลบและเป็นประเด็นค้างคาสำหรับกลุ่ม นักลงทุนได้

ประธานเจ้าหน้าที่บริการฝ่ายการเงิน (CFO) ของ TRUE ระบุในที่ประชุมนักวิเคราะห์ช่วงหลังประกาศงบไตรมาส 1/2563 ว่าการขายหน่วยลงทุน DIF คือหนึ่งในหนทางการระดมทุนของ TRUE เพื่อนำมาเสริมกระแสเงินสดอิสระที่ติดลบในปีนี้ โดยหลังจากการทำธุรกรรมเสร็จ สัดส่วนการถือครองหน่วยลงทนุ DIF ของ TRUE จะอยู่ที่ 26% ซงึ่ เราเชื่อว่าสัดส่วนการถือครองหน่วยลงทุน DIF ของ TRUE จะไม่ต่ำไปกว่า20% ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นว่าอาจมีการขายหน่วยออกมาอีก 6% ในอนาคต ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นค้างคาในแง่ลบที่มีต่อ DIF

จากการคำนวณของเรา การขายหน่วยลงทุน DIF ของ TRUE จะทำให้บริษัทได้เงินสดราวๆ 683-763 ลบ. ในไตรมาส 2/2563 และกำไรที่ไม่ใช่สด693 ลบ. ในไตรมาส 2/2563 รวมแล้วจะมีกระแสเงินสดไหลเข้าจำนวน 4.4 พันลบ. ในไตร มาส 2/2563 และทำให้ประมาณการมูลค่าหุ้นของเราเพิ่มขึ้น 227-317 ลบ. หรือคิดเป็ น 0.007-0.01 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 0.1-0.2% ทั้งนี้ ต้นทุนการถือครองหน่วยลงทุน DIF ของ TRUE นั้นอยู่ที่ 12.37 บาทต่อหน่วย โดยมีกำไรที่ยังไม่รับรู้จากการขายสินทรัพยืเข้ากอง DIF ที่ 2.46 หมื่นลบ.

ขณะที่ราคาเป้าหมายของเราสำหรับ DIF มีอัตราคิดลด 15% หรืออยู่ที่ 13.74 บาท เทียบกับราคาขายจากธุรกรรมครั้งนี้ที่ 14.5-14.8 บาท ทั้งนี้ เราไม่มีความกังวลมากนักต่อความสามารถของ TRUE ในการระดมเงินมาเสริมกระแสเงินสดอิสระใน ปีนี้ เพราะ TRUE จะได้รับเงินจำนวน 4.4 พันลบ. จากธุรกรรมนี้เข้ามาช่วย นอกจากนี้TRUE ก็อยู่ระหว่างการออกขายหุ้นกู้ในประเทศมูลค่า 2.5 หมื่นลบ. และคาดว่าจะสามารถขอคืน ภาษีไดร้าวๆ 2.0 หมนื่ ลบ. ในปีนอี้ กีเชน่ กัน

แนะน า “ถือ” เรายังคงประมาณการก าไรตามเดิม ด้วยราคาเป้าหมายอิงวิธีคิดลดเงินสด(DCF) สำหรับปี2563 ที่ 16.17 บาท พรอ้ มกับค าแนะนำ “ถือ” โดยมีปัจจัยที่อาจนำไปสู่การปรับลดมูลค่าหุ้น (derating) ดังนี้ 1) ปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผล (payout ratio) เพื่อ ส ารองสภาพคล่อง 2) การสูญเสียรายได้ไป 3% จากสัญญาเช่าอุปกรณ์ที่จะหมดอายุการใช้งานในปี 2564 และ 3) สิทธิประโยชน์การประหยัดภาษีเงนิ ปันผลที่จะสิ้นสุดลงในปี2566 ทั้งนี้ เราชอบ JASIF มากกว่า DIF เพราะ 1) JAS มีสถานะเงินสดสุทธิ 2) JAS มีช่วงเวลาห้ามขายหน่วยลงทุน JASIF เป็นเวลา 3 ปี และ 3) JASIF มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (DY) ที่สูง กว่า DIF ถึง 400 bps โดย DIF จะน่าสนใจมากขึ้นหากราคาหน่วยลงทุนต่ำกว่า 14.60 บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1