ทันหุ้น – บล.โกลเบล็ก สแกนหุ้น SPVI ชี้ทุกสาขากลับมาเปิดให้บริการตามปกติ คาดไตรมาส 2/2563 เป็นจุดต่ำสุด ก่อนจะพลิกฟื้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากผลกระทบของสถานการณ์ COVID-19 พร้อมรับปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวสินค้า  iPhone รุ่นใหม่ แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 2.78 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS แนะนำ “ซื้อ” SPVI ให้ราคาเหมาะสม 2.78 บาท ซึ่ง SPVI เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple และบริษัทเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่ม iOS, MacOS และ Accessories ผ่านช่องทางร้าน iStudio by SPVI, iBeat by SPVI, U-Store by SPVI, Mobi รวมทั้งมีกลุ่มลูกค้าองค์กร อาทิ สถานศึกษา บริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ

บริการหลังการขาย

นอกจากนี้ บริษัทยังมีศูนย์บริการหลังการขายผ่านร้าน iCenter โดยบริษัทมีสาขาที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ทั้งหมด 31 สาขา คิดเป็นสัดส่วนรายได้ในกลุ่มสินค้า Apple ทั้งหมดราว 90% ขณะที่รายได้อีก 10% มาจากการเป็น Partner กับ AIS ในการเปิดร้าน AIS Telewiz, AIS Shop by Partner และ AIS Buddy มีจำนวนสาขารวม 17 สาขา และการขายสินค้ากลุ่ม Non-Apple Brand

สำหรับรายงานกำไรไตรมาส 1/63 เท่ากับ 12.1 ล้านบาท ลดลง 18.9%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 62%จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งบริษัทมีรายได้ในงวดไตรมาส 1/63 เท่ากับ 735.1 ล้านบาท ลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  และลดลง 42.8%จากไตรมาสก่อนหน้า ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอลง

ทำจุดต่ำสุดQ2

ประกอบกับช่วงปลายเดือน มี.ค. 63 มีการประกาศเคอร์ฟิว ทำให้บริษัทต้องปิดสาขาชั่วคราวถึง 14 สาขา จากทั้งหมด 48 สาขา ขณะที่ %GPM ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 13.7% จากปีก่อนอยู่ที่ 12.3% และไตรมาสก่อนอยู่ที่ระดับ 10.7% เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ในกลุ่ม Accessories มากขึ้น ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่า และประกอบกับมีรายได้จากการ Rebate สินค้าจากสาขา U-store

ส่วนไตรมาส 2/2563 คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุด ก่อนจะพลิกฟื้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้เดือน เม.ย. 63 บริษัทเปิดเพียง 14 สาขา และปิด 34 สาขา อย่างไรก็ดี กลางเดือน พ.ค. เริ่มมีสัญญาณบวก บริษัทกลับมาเปิดกว่า 44 สาขา และปิดเพียง 4 สาขา

กลับมาเปิดสาขา

ขณะที่ปัจจุบันทุกสาขากลับมาเปิดให้บริการตามปกติ และคาดจะเห็นการเร่งฟื้นตัวของผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวสินค้า  iPhone รุ่นใหม่ ในช่วง ปลาย ต.ค. ถึงต้น ก.ย. ประกอบกับบริษัทมีแผนเปิดสาขา U-store 3 สาขาในไตรมาส 3/63 และอีก 4 สาขายังอยู่ใน Pipe-line ซึ่งคาดจะเปิดในช่วงไตรมาส 4/63 โดยเราคาดรายได้ทั้งปี 63 ราว 3.56 พันล้านบาท ลดลง1.5%YoY ด้วยสมมติฐาน %GPM ราว 12% ลดลงจากปีก่อนที่ระดับ 12.23% ส่วน %SG&A ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 10.7% จากปีก่อนที่ 9.6% ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิราว 74.2 ล้านบาท ลดลง 2%YoY

ดังนั้นเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 2.78 บาท ซึ่งประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PE ค่าเฉลี่ย 2 ปีย้อนหลังที่ 15เท่า ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม COM7, JMART และ CPW ที่ 18.3 เท่า และคาดกำไรต่อหุ้นปี 63 ราว 0.19 บาทต่อหุ้น คำนวณได้ราคาเหมาะสมที่ 2.78 บาท มีอัพไซด์จากราคาปัจจุบัน จึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”