> mai > CHAYO

11 มิถุนายน 2020 เวลา 09:30 น.

กูรูส่องCHAYO-W1 รอย่อก่อนเข้าลงทุน เคาะมูลค่า2.69บาท

ทันหุ้น – สู้โควิด –บล.ทิสโก้ ส่องวอแรนต์ CHAYA-W1 เริ่มกดปุ่มซื้อขายในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 2.69 บาท อิงราคาหุ้นแม่ที่ 6.35 บาท แนะรอ CHAYO ย่อตัวก่อนเข้าลงทุน ชี้ธุรกิจติดตามหนี้มีความน่าสนใจช่วงเศรษฐกิจอ่อนแอ


สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุถึง CHAYO-W1 ว่า CHAYO-W1 เริ่มซื้อขายในวันที่ 9 มิถุนายน 2563โดยบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือCHAYO ประกอบธุรกิจของกลุ่มกิจการ มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการเจรจาติดตาม และเร่งรัดหนี้สิน และบริหารสินทรัพย์จากการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงิน และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า


พื้นฐาน 2.69 บ.


ทางฝ่ายประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ CHAYO-W1 ที่ 2.69 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 6.35 บาท โดยมีความผันผวนของหุ้นแม่ที่ 81.4% และคิดเป็น All-in Premium ที่ 45% แต่ในด้านของต้นทุนผู้ได้รับ CHAYO-W1 ไม่มีต้นทุน เนื่องจากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นในวันที่ 13 พ.ค. (หลังการปรับผลของการแจกหุ้นปันผล) ซึ่งเป็นวันที่หุ้นขึ้นเครื่องหมาย XW และ XD พร้อมกัน


การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดในช่วงที่ผ่านมาทำให้การประเมินมูลค่าในเชิงพื้นฐานมีอัพไซด์ที่ค่อนข้างจำกัด มองว่าควรรอ CHAYO ย่อตัวก่อนการเข้าลงทุน เนื่องจากตัวธุรกิจติดตามหนี้ของ CHAYO จะมีความน่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ และเกิดการผิดนัดชำระเพิ่มขึ้น


สำหรับCHAYO-W1 มีจำนวนที่ออก 152 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ (ขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันที่ 13 พ.ค. 2020)อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 6.50 บาท อายุ 2 ปีสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของทุกไตรมาส (ใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 30 มิ.ย. 2020 และหมดอายุในวันที่ 27 พ.ค. 2022)


เร่งซือหนี้บริหาร


ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า บริษัทคาดสัดส่วนรายได้ปีนี้จะเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะสัดส่วนรายได้จากการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหาร เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว คาดสถาบันทางการเงินจะปล่อยหนี้เสียออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสการขยายธุรกิจรับซื้อหนี้เติบโตเพิ่มขึ้น


ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ที่ผ่านมา สัดส่วนรายได้จากการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 85% ส่วนทั้งปีบริษัทคาดธุรกิจการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 85% จากปีก่อน 79% ขณะที่ธุรกิจการติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจขายสินค้าผ่านคอลเซ็นเตอร์ และธุรกิจสอังหาริมทรัพย์คาดจะมีสัดส่วนรายได้รวมกันอยู่ที่ 10-15%


บริษัทมองว่าหนี้ด้อยคุณภาพปีนี้ จะเพิ่มขึ้นมาที่ 5-5.5 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 4.7 แสนล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยหนี้ที่มีหลักประกัน ประมาณ 4 แสนล้านบาท และหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 1 แสนล้านบาท คาดหนี้ด้อยคุณภาพจะมีออกมาให้ประมูลราว 50% หรือ 2.5 แสนล้านบาท และมีหนี้เข้าระบบมาหาบริษัทประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยบริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 1 พันล้านบาท เพื่อใช้สำหรับซื้อหนี้

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X