ทันหุ้น –สู้โควิด – BA ทยอยเพิ่มเที่ยวบิน ในประเทศตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป และเปิดเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ CLMV ตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคม 2563 มีลุ้นครึ่งหลังปี 2563 ผลงานดีกว่าครึ่งแรก เล็งจับมือพันธมิตรสายการบิน Codeshare ในเอเชียเพิ่ม

นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายายการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ที่ส่งผลทำให้การเดินทางเข้า-ออกต่างประเทศ รวมถึงภายในประเทศตั้งแต่กลางมีนาคม - กลางเดือนพฤษภาคม 2563 ต้องหยุดชะงักชั่วคราว

ขณะที่ประเมินภาพรวมปี 2563 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) และปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) จะปรับตัวลดลงกว่า 60% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีผลกดดันต่อเนื่องถึงจำนวนผู้โดยสารในปีนี้ที่อาจหดตัวลงราว 58 - 60%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้แม้ว่าในปัจจุบันสายการบินจะเริ่มทยอยเปิดเส้นทางการบินภายในประเทศเพิ่มขึ้นแล้ว แต่เนื่องด้วยการเพิ่มแรงกระตุ้นจูงใจการซื้อตั๋วเดินทางและการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงในปัจจุบันส่งผลให้คาดกว่าราคาขายตั๋วเฉลี่ยในปีนี้จะลดลงอีกประมาณ 4%

*ทยอยเพิ่มเที่ยวบินในประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าตลาดในประเทศจะเริ่มฟื้นตัวหลังจากทยอยเพิ่มเที่ยวบินในประเทศตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนทยอยเปิดเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะใน CLMV ตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว ส่วนการขายที่นั่งแบบที่เว้นที่คาดว่าจะยังมีต่อไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ทำให้คาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 2563 จะปรับตัวได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก และจะมีการฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนที่สุดในช่วงไตรมาส 4/2563 เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชีย เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจาการพึ่งพิงนักท่องเที่ยวยุโรปและตะวันออกกลางลง เพราะมองว่ากว่าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของชาวยุโรปจะฟื้นตัวได้อาจใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ปี หรืออย่างน้อยจะเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/2564 ทั้งนี้ คาดหวังว่าภายในช่วงครึ่งหลังปี 2563 จะได้ข้อสรุปการทำความตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare Agreement) ไม่น้อยกว่า 1 ราย จากปัจจุบันที่มีสัญญาร่วมแล้วกว่า 29 สายการบิน

*มีแผนปรับขนาดของฝูงบิน

ขณะเดียวกันในปี 2563 นี้ บริษัทมีแผนทยอยปรับขนาดของฝูงบินให้เล็กลง โดยเตรียมจำหน่ายเครื่องบินออก 3 ลำ แบ่งเป็นการคืนเครื่องบินที่ครบกำหนดของสัญญาเช่า Airbus A319 จำนวน 1 ลำ และขายออกเครื่องบิน ATR72-500 จำนวน 2 ลำ จากเดิมมีอยู่จำนวน 6 ลำ ส่งผลให้สิ้นปีคาดว่าจะเหลือเครื่องบินในฝูงบินจำนวน 37 ลำ จากปัจจุบัน 40 ลำ อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนใช้เครื่องบินใบพัด ATR72-500 และ ATR72-600 ให้บริการผู้โดยสารแทน เนื่องจากสามารถลดต้นทุนน้ำมันได้และมองว่าเหมาะสมกับตลาดที่ความต้องการค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา

สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น ครัวการบิน (BAC) และธุรกิจบริการภาคพื้นการบิน (BFS Ground) ก็ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ประเทศและหยุดให้บริการเดินทางภายในประเทศและต่างประเทศชั่วคราวเช่นกัน อย่าไรก็ดี ธุรกิจ BAC ยังมีโอกาสเติบโตที่ดี ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาการส่งออกอาหารไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เนื่องจากมองว่า Supply Chain ลดลงจากปัญหาการเกิดไวรัสโควิด-19 อีกทั้ง บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารเพื่อสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ทางด้านธุรกิจคาร์โก้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาการเดินทางภายในประเทศและระหว่างประเทศจะหยุดชั่วคราว แต่ไทยยังคงมีการส่งออกสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผลไม้ไทยไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ในธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบที่น้อยมาก

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1