> SET > TFMAMA

08 มิถุนายน 2020 เวลา 12:04 น.

TFMAMA โตโดดเด่นในภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โบรกอัพเป้า 242 บ.

ทันหุ้น - สู้โควิด - บจ.หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุถึง TFMAMA ว่า คงประมาณการณ์กำไรปกติปี 2563 และ 2564 ที่ 4.2 พันล้านบาท (+9.0% YoY) และ 4.3 พันล้านบาท (+1.4% YoY) แนะนำ "ซื้อ" พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 242 บาท อิง PE ที่ 19 เท่า สะท้อนแนวโน้มของธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ดีขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง


บริษัทรายงานกำไรปกติ 1Q63 ที่ 988 ล้านบาท (-6.8 QoQ, +15.2% YoY) กำไรที่หดตัว QoQ เกิดจากผลของฤดูกาล กำไรที่เติบโต YoY เกิดจากยอดขายที่เด่นและอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว สรุปสาระสำคัญดังนี้ 1) ยอดขายหลักอยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท (-4.3% QoQ, +5.2YoY) ได้แรงหนุนจากยอดขายของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโต 9% YoY จากความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงโรคระบาดเดือนมี.ค.63 +20% MoM


ขณะที่ยอดขายธุรกิจเบเกอรี่ปรับตัวทรงตัว YoY 2) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 36.5% เทียบกับปี 1Q62 ที่ 35.0% เพราะได้ต้นทุน น้ำมันปาล์มที่ราคาต่ำในปีก่อนหน้าช่วยหนุน แม้สินค้ากลุ่ม premium ที่ให้ margin สูงมีสัดส่วนรายได้ลงเหลือราว 7% ของยอดขายบะหมี่สำเร็จรูป จากปกติราว 8% 3) ค่าใช้จ่าย SG&A ทรงตัว +0.3% YoY ไม่ได้ปรับขึ้นตามยอดขาย และ 4) Equity Income อยู่ที่ 77 ล้านบาท (+15.1% YoY) เพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจแป้งสาลีที่เพิ่มขึ้น


แม้กำไรปกติ 1Q63 คิดเป็น 23.6% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2563 แต่ปกติไตรมาส 1 จะเป็นฐานต่ำของปี ทำให้เราคงประมาณการปี 2563 ที่ 4.2 พันล้านบาท (+9.0% YoY)


สภาพัฒน์รายงานเศรษฐกิจไตรมาส 1Q63 ที่ระดับ -1.8% (-330 bps QoQ, -470 bps YoY) จากผลกระทบของการแพร่กระจายของไวรัส COVID-19 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย 63 ที่ 47.2 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 21 ปี 7 เดือน นับตั้งแต่เดือนต.ค. 41 อย่างไรก็ดี สำนักงานอุตฯ รายงานยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเดือนเม.ย.63เติบโตด้วยอัตราเร่งที่ +2.6%MoM, +31.3% YoY และยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีเติบโต +14.7% สะท้อนภาพตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโตเด่นในภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ


แม้ TFMAMA จะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไปบ้างในช่วง 1Q63 และเดือนเม.ย.63 เนื่องจากบริษัทฯไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันความต้องการกักตุนสินค้าของผู้บริโภค ส่งผลให้ยอดขาย Brand รองสูงขึ้น อย่างไรก็ดียอดขายมาม่าของบริษัทฯเติบโตเด่น 6% MoM ในเดือนเม.ย ขณะที่เดือนพ.ค. แนวโน้มเริ่มชะลอตัวลงหลังยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน หากเทียบกับเหตุการณ์อุทกภัยในเดือน ต.ค. 54 ยอดขายมาม่าเพิ่มขึ้นกว่าระดับปกติราว 3 เดือน จากนั้นจะต่ำกว่าระดับปกติราว 2 เดือน (ตลาดบริโภคสินค้าที่ตุนไว้) ก่อนกลับมาสู่ระดับปกติอีกครั้ง ดังนั้นยอดขายที่เพิ่มขึ้นเด่นรายเดือนในช่วงนี้จึงไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เราต้องปรับเพิ่มประมาณการ


เราคงประมาณการณ์กำไรปกติปี 2563-2564 อย่างไรก็ดีเราปรับเพิ่มราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 เป็น 242.00 บาทต่อหุ้น อิง PE ที่ 19 เท่า (-1SD ของกลุ่มบะหมี่สำเร็จรูป จากเดิม -1.5SD) จาก 1) ตลาดเริ่มปรับเพิ่มประมาณการบริษัทบะหมี่สำเร็จรูปในต่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอและซึมยาวกว่าที่เราคาดไว้ (ตารางที่ 5 - 6) หนุนวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจยาวนานขึ้น เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" TFMAMA จากการเป็น Net Cash company มีกระแสเงินสดมั่นคง ให้อัตราเงินปันผลคาดหวังที่ราว 2.4% และเด่นในวัฏจักรเศรษฐกิจชะลอตัว ความเสี่ยงสำคัญได้แก่ 1) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค 2) ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวแรงผิดคาด 3) การเปลี่ยนแปลงราคาต้นทุนวัตถุดิบ และ 4) การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X