05 มิถุนายน 2020 เวลา 11:39 น.
ทันหุ้น-สู้โควิด :"หยวนต้าฯ" ประเมินเม็ดเงินต่างชาติมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในเดือน มิ.ย.นี้ประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านบาท ช่วยดันดัชนีปรับขึ้นได้อีก 14-21 จุด พร้อมมองหุ้นที่ Laggard ที่เป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ประเมินว่าเงินทุนต่างชาติจะซื้อหุ้นไทยอีก 1-1.5 หมื่นล้านบาทในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นตามการวิเคราะห์เชิงปริมาณปรับขึ้น 14-21 จุด นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้นักลงทุนต่างชาติขายกว่า 1.9 แสนล้านบาท จึงทำให้นักลงทุนในประเทศมีความหวังว่าเงินทุนต่างชาติจะเข้ามารับไม้ต่อ และหนุนดัชนีให้เร่งตัวขึ้นได้
หลัง MSCI ปรับน้ำหนักเมื่อ 29 พ.ค. 63 นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง 4 วันทำการดังกล่าว แต่ไม่ได้ซื้อเฉพาะหุ้นไทยอย่างเดียว เม็ดเงินไหลเข้าทั้งภูมิภาค ระหว่าง 1-2 มิ.ย. 63 ซื้อสุทธิในไทย 110ล้านเหรียญสหรัฐ , เกาหลีใต้ 209ล้านเหรียญสหรัฐ , ไต้หวัน 1,104ล้านเหรียญสหรัฐ, อินโดนีเซีย 166 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ฟิลิปปินส์ 21ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุเป็นเพราะสภาพคล่องส่วนเกิน และคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะฉะนั้นเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าช่วงนี้จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
7 ข้อสังเกตเทียบกับการไหลเข้าของ Flow รอบนี้กับอดีต
(1) ยอด นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ต่างชาติยังขายสุทธิอยู่ที่ -1.9 แสนล้านบาท และขายผ่าน NVDR -3.5 หมื่นล้านบาท
(2) ต่างชาติซื้อหุ้นไทยจริงจังครั้งล่าสุด มิ.ย.-ก.ค. 2562 ที่ 46,686 ล้านบาท และ 20,054 ล้านบาท ตามลำดับ หลัง MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักจาก 2.3% เป็น 2.8% เมื่อ 28 พ.ค. 2562
(3) ดัชนีหุ้นไทย มิ.ย. 2562 ปรับขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน หลังจากนั้นอ่อนตัวลง -1.1% ใน ก.ค. 62 ขณะที่ รอบนี้ เฉพาะ มิ.ย. 2563 ขึ้นมาแล้ว 4.9%
(4) Current PER ของตลาดหุ้นไทย มิ.ย.-ก.ค. 2562 เท่ากับ 18.6 เท่า และ 18.5 เท่า ตามลำดับ ปัจจุบันอยู่ที่ 19.8 เท่า
(5) ช่วงที่ Fund Flow ไหลเข้าแล้วหนุนให้ดัชนีหุ้นไทย ขึ้นไปเทรดบน Current PER ที่ 23-23.5 เท่า คือ มิ.ย.-ก.ย. 2559 ต่างชาติซื้อ 4 เดือนติดต่อกันรวม 1.14 แสนล้านบาท แต่คาดว่ารอบนี้จะไม่ไปถึงขนาดนั้น เพราะ GDP ปี 2559 +4.3% และกำไรบริษัทจดทะเบียนโต +36% ซึ่งปีนี้ติดลบทั้งคู่ ต่อให้เป็นปีหน้าก็ยังฟื้นตัวไม่เท่าปี 2559
(6) เงินบาท มิ.ย. - ก.ค. 2562 แข็งค่า 2.6% ส่วนเดือน มิ.ย. - ก.ย. 2559 แข็งค่า 3.3% ล่าสุด มิ.ย. 2563 แข็งค่า 1%
การคาดเงินทุนไหลเข้าออกระยะหลังทำได้ยาก เพราะต่างชาติไปลงทุนผ่าน NVDR แทน ซึ่งพบว่าถ้านับรวมยอด NVDR ด้วย จะมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับดัชนีตลาดหุ้นมากกว่าการพิจารณายอดซื้อขายหุ้นของต่างชาติอย่างเดียว โดยถ้าอิงจากแรงซื้อของต่างชาติแต่ละรอบ คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าอีก 1-1.5 หมื่นลบ.ในเดือน มิ.ย. 63 และจากการวิเคราะห์เชิงปริมาณ พบว่า เม็ดเงินทุก 1 หมื่นล้านบาท จะหนุนให้ดัชนีปรับขึ้นได้ 14 จุด
**เหลือหุ้น Laggard ให้ต่างชาติซื้ออีกไม่มาก
ฝ่ายวิจัยหยวนต้าฯ ประเมินว่าแรงซื้อของต่างชาติอาจไม่ได้หนุนดัชนี รอบนี้ได้มากนัก เพราะ Current PER ขึ้นไปเทียบเท่าช่วง Flow ไหลเข้าในแต่ละรอบแล้ว ขณะที่ ตัวแปรบ่งชี้ทิศทางเงินทุนต่างชาติที่สำคัญ คือ ค่าเงินบาท ซึ่งจะไม่ได้เป็น Safe Haven เหมือนปีก่อนที่ได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว ให้จับตาการเคลื่อนไหวของ USD/THB หากเงินบาทพลิกมาอ่อนค่าเร็วเกิน 31.70 บาทต่อดอลลาร์ ให้ระวังแรงขายของต่างชาติและการพักตัวของดัชนีตลาดหุ้นในระดับที่มีนัยสำคัญตามมา
*หุ้นเป้าหมายต่างชาติ
สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ที่ต่างชาติมีโอกาสกลับเข้าซื้อ จะเป็นหุ้นที่ถูกขายหนักในช่วงก่อนหน้า ซึ่งได้แก่ BBL, KBANK, KTB, PTT, PTTGC/, ADVANC, INTUCH, DTAC, AOT, BTS, BEM, LH, CPALL, CPN, MINT, RATCH, BDMS โดยมีหุ้น Laggard ที่พอมี Upside ให้เก็งกำไรได้คือ ADVANC, INTUCH, DTAC, CPALL, CPN, BTS และ MINT
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม