ทันหุ้น –สู้โควิด –DCC "ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล" เข้าซื้อหุ้น DCC เพิ่ม 85 ล้านหุ้น หวังลงทุนระยะยาว เชื่อธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง แย้มผลงานไตรมาส 2/2563 แนวโน้มดี หลังต้นทุนก๊าซลดดันมาร์จิ้น ย้ำมาร์เก็ตแคปอันดับ 1 ธุรกิจกระเบื้องหนุนอนาคต ฟากโบรกส่องผลงานแข็งแกร่ง ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น มีอัพไซด์-ปันผลจูงใจ ชูเป้าหมาย 2.40 บาท
นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการ บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เข้าซื้อหุ้น DCC จำนวน 85,000,000 หุ้น หรือ 1.04% ราคาหุ้นละ 1.15 บาท เป็นเงินรวม 97.75 ล้านบาท โดยการเข้าลงทุนดังกล่าวเป็นการเข้าลงทุนระยะยาว เนื่องจากมองว่าธุรกิจของไดนาสตี้ ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว เห็นได้จากผละกอบการไตรมาส 1/2563 ผลประกอบการเติบโตได้ดีเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
เพราะได้รับปัจจัยบวกจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่เป็นต้นทุนของบริษัทกว่า 30% ปรับตัวลดลง ส่งผลให้มาร์จิ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีคาดว่าปัจจัยบวกดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังไตรมาส 2/2563 ด้วย
*ควบรวม RCI โตก้าวกระโดด
นอกจากนี้การเข้าควบรวมกับของบริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI โดยบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นตอนนี้ราว 84.88%ยังส่งผลดีต่อต่อการเติบโตของธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และเพิ่มศัยภาพในปริมาณยอดขายที่จะดีต่อเนื่องในอนาคต โดยขณะนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม หรือ มาร์เก็ตแคปของกลุ่มบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นดันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมกระเบื้อง
“การที่มีการเข้าลงทุนในDCC เป็นการมองในเรื่องของการถือลงทุนในระยะยาว ที่ผ่านมาผลกระทบโควิด-19 ก็ไม่กระทบมากนัก ยังมีการใช้งานกระเบื้องได้ และต้นทุนก๊าซธรรมชาติตอนนี้ก็ลดลงทำให้ส่งผลดีต่อมาร์จิ้นด้วย ทำให้คาดว่าจะมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง” นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายชัยสิทธิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมในฐานนะนักลงทุนว่า ยังมีมุมมองการลงทุนที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ส่วนตัวก็มีการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นอุตสาหกรรมที่รู้จักดี โดยจะเน้นเป็นหุ้นที่ก่อนหน้านี้มีการปรับตัวลดลงแรง ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น และยังมีแนวโน้มการเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้ว่าขณะนี้ตลาดหุ้นไทยได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากจากก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังมีหุ้นอีกจำหนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลดลงไปแรง
*เคาะเป้า 2.40 บาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุถึง DCC ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ดีกว่าคาดจากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น หลังต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2563 จะแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าการบริโภคที่อ่อนแอลง ทำให้คนนำค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างๆ มาปรับปรุงที่พักอาศัยแทน ทำให้ยอดขายในช่วงปลาย ไตรมาส 1/2563 ของ DCC เพิ่มขึ้น และคาดดีต่อตรมาส 2/2563
อีกทั้งต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จะช่วยให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 133 บาท เป็น 140 บาท จากสัดส่วนสินค้าอัตรากำไรสูงที่เพิ่มขึ้น เช่น กระเบื้องแผ่นใหญ่, กระเบื้องกันลื่น และอื่นๆ ทั้งนี้แนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 2.40 บาท (PER ที่ 19 เท่าสำหรับปี 2563) โดยที่มีอัพไซด์และเงินปันผลที่น่าสนใจ มีความเสี่ยงคือ อุปสงค์ที่อ่อนแอกว่าคาด, ราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น และสงครามราคา
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม