> SET >

05 มิถุนายน 2020 เวลา 07:45 น.

โด๊ปเที่ยวสรุปสัปดาห์หน้า ตั้งงบ1หมื่นล.เริ่มฉีดก.ค.

ทันหุ้น – สู้โควิด – ผู้ว่าททท.ชี้สัปดาห์หน้าสรุปมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ชงครม.เคาะเดือนนี้ เริ่ม กรกฏาคม-ตุลาคม ชี้ตั้งงบ 1 หมื่นล้านบาท หวังดันเป้ารายได้ 1.23 ล้านล้านบาท เบื้องต้นบุคลากรการแพทย์ 1.2 ล้านคนเที่ยวฟรี ส่วนประชาชนรอสรุป ด้านนักวิเคราะห์ย้ำราคาหุ้นดีดรับข่าวแรงแนะ “เก็งกำไรในกรอบ


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับกระทรวงการคลัง วางแนวทางการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ว่า ในเบื้องต้นมีความชัดเจน คือ สนับสนุนงบประมาณเพื่อตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแนวหน้าในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19


ส่วนการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น ยังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า (8-12 มิถุนายน 2563) เพื่อเสนอเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองใช้จ่ายเงินกู้ ก่อนจะเสนอตามขั้นตอนเพื่อบรรจุในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอน โดยยังคงกรอบการประกาศใช้ระหว่างเดือนกรกฏาคม – ตุลาคม 2563 นี้


เบื้องต้นได้กำหนดกรอบวงเงินไว้ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าเม็ดเงินจะหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 2 รอบ ซึ่งทาง ททท.ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวไว้ที่ 1.23 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น 1.รายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศ 4-5 แสนล้านบาท, และ 2.การจ้างงานภาคการท่องเที่ยว 2.5 ล้านคน


“กระตุ้นการท่องเที่ยวจะเน้นไทยเที่ยวไทยเป็นหลัก ซึ่งหนึ่งในทางเลือกจะมีการให้สิทธิบุคคลากรทางการแพทย์ราว 1.2 ล้านคน เที่ยวฟรี เพื่อเป็นการตอบแทนบุคลากรที่เสียสละทำงานหนักมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่วนการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านประชาชนทั่วไปยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน”


นายยุทธศักดิ์ ระบุ เมื่อรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายระยะที่ 4 หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ น่าจะทยอยจัดอบรม สัมมนา เพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนเริ่มใช้จ่ายเม็ดเงินส่วนนี้ตามมา โดยคาดหวังจะกระตุ้นการเดินทางในช่วงไตรมาส 3/2563 ให้ต่อเนื่องไปถึงช่วงไฮซีซั่นคือไตรมาส 4/2563 – ไตรมาส 1/2564 พร้อมกันนี้ ททท. ยังคงเดินหน้าเจรจากับกลุ่มประเทศเป้าหมาย เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางการดำเนินงาน ควบคู่กับการประชุมเตรียมความพร้อม และกำหนดกรอบความเหมาะสมในการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาในประเทศ


“เบื้องต้นคงต้องยอมรับก่อนว่าจากนี้ไปการท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิม จะให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาครั้งละมากๆ คงไม่ใช่ ซึ่งทาง ททท. จึงเตรียมคัดกรองนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีฐานะการเงินพร้อมที่จะใช้จ่าย โดยใช้จุดแข็งด้านสาธารณสุขของเราเป็นจุดขาย ซึ่งใกล้จะมีความชัดเจนแล้ว”


เป็นปัจจัยหนุนจิตวิทยา


นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุ ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวทั้ง กลุ่มสายการบิน, โรงแรม, ท่าอากาศยาน ปรับตัวขึ้นรับกระแสข่าวดังกล่าวมาในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามในเชิงปัจจัยพื้นฐาน หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มว่าจะรายงานผลการดำเนินงานที่อ่อนแอต่อเนื่องทั้งปี 2563 - 2564


เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวไทยมาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศราว 60-70% และเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศราว 30-40% ประกอบกับการทำประมาณการนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คาดการณ์ว่าทั้งปี 2564 น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาที่ประมาณ 20 ล้านคน จากสถิตินักท่องเที่ยว ณ สิ้นปี 2562 ที่ 40 ล้านคน


ดังนั้นแม้จะกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงการทยอยเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงสู่ระดับปลอดภัยเข้ามาท่องเที่ยว รายได้ก็จะทยอยฟื้นตัวมากกว่าจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว


ขณะเดียวกันเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย มีแนวโน้มเข้าสู่หุ้นใหญ่ในกลุ่ม SET50 ก่อน จึงคงคำแนะนำเชิงกลยุทธ์เป็น “เก็งกำไรในกรอบ” สำหรับหุ้น ERW ราคาเคลื่อนไหวระหว่าง 4-4.20 บาท และ CENTEL ราคาเคลื่อนไหวระหว่าง 25-26 บาท และ AOT ราคาเคลื่อนไหวระหว่าง 68-70 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X